สืบเมืองปัว รวบสกาดใต้ค้ายาบ้า เกือบพันเม็ด พร้อมปืนเถื่อน 

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 11.00 น. ต่อเนื่องโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว เวลาประมาณ 14.00 น. ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.ปัว, พ.ต.ท.สัณห์ ล้านมา รอง ผกก สส., พ.ต.ต.สมชาย ปาละ สว.สส., ร.ต.อ.สุรศักดิ์ ทวีทรัพย์, ร.ต.อ.อุทัย อินไชย, ร.ต.อ.สัจจะนิจ หนักป้อ, ร.ต.อ.สงกรานต์ สุภาแก้ว นรอง สว.สส. พร้อมกับพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอภิเชษฐ์ หรือแซน สุมทุม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.สกาด อ.ปัว จ.น่าน พร้อมด้วยของกลาง 1. เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ชนิดสีส้มและสีเขียว บรรจุอยู่ในถุงสีชมพู และบรรจุอยู่ในถุงสีน้ำเงิน ชนิดเม็ดสีส้ม จำนวน 680 เม็ด และชนิดเม็ดสีเขียว จำนวน 7 เม็ด รวมยาบ้า 4 ถุง ทั้งหมด จำนวน 687 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าสีเทาคาดเอว วางอยู่ข้างผู้ต้องหานั่งอยู่ และ 2. อาวุธปืนไทยประดิษฐ์แก๊ปยาว ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนแก็ป จำนวน 1 ชุด ที่พิงอยู่ข้างฝาบ้านในบ้านของผู้ต้องหา

หลังจากที่ จนท.ตร.ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายแซน ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง อาศัยอยู่บ้านสกาดใต้ หมู่ 3 ต.สกาด มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นทั้งผู้เสพและเป็นผู้จำหน่ายรายย่อยในพื้นที่ ต.สกาด และมียาบ้าเพื่อรอจำหน่ายจำนวนมากอยู่ที่บ้าน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.ปัว ทราบแล้วสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบ จากนั้น จนท.ตร.ชุดจับกุม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ตามความจำเป็นเร่งด่วน โดยใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ของ พ.ต.ต. สมชาย ปาละ สว.สส.สภ.ปัว, ร.ต.อ.สุรศักดิ์ ทวีทรัพย์, ร.ต.อ.อุทัย อินไชย และ ร.ต.อ.สัจจะนิจ หนักป้อ รอง สว.สส. เนื่องจากเกรงว่าจะเนิ่นช้าหากดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายค้น สิ่งของผิดกฎหมายอาจถูกทำลายหรือโยกย้ายไปเสียก่อน เมื่อไปถึงพบ นายอภิเชษฐ์ หรือแซน สุมทุม ผู้ถูกจับ (ทราบชื่อ-นามสกุลจริงภายหลัง) และนายประพันธ์หรืออู๋ พันธเขียว (ทราบชื่อ-นามสกุลจริงภายหลัง แยกดำเนินคดี) นั่งมั่วสุมเสพยาบ้าอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ลักษณะท่าทางมีพิรุธ น่าสงสัย คล้ายมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจขอทำการตรวจค้น ซึ่งนายอภิเชษฐ์ พบของกลางยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าสีเทาคาดเอว วางอยู่ข้างทึ่นั่งอยู่และเป็นคนนำตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์แก๊ปยาว ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง เมื่อสอบถาม นายอภิเชษฐ์ และนายประพันธ์ ซึ่งนายอภิเชษฐ์ ได้ยอมรับว่าของกลางดังกล่าวทั้งหมด ที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจยึดไว้เป็นของตนเองจริง โดยนายประพันธ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และยังยอมรับอีกว่าตนได้เสพยาบ้า จำนวน 3-4 เม็ด โดยวิธีสูดดมควันมาก่อน ที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลางมาที่ สภ.ปัว เพื่อขอทำการตรวจปัสสาวะ เบื้องต้นกับชุดทดสอบเมทแอมเฟตามีน ชนิดตลับของทางราชการที่ส่งมา โดยความยินยอมของผู้ถูกจับ เบื้องต้นพบว่าเป็นผลบวก จึงได้นำตัวอย่างน้ำปัสสาวะที่บรรจุขวดพลาสติกใสปิดฝาสนิท ผนึกปากขวดลงลายมือชื่อเจ้าของปัสสาวะของผู้ถูกตรวจไปตรวจหาสารเสพติด ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ผลการตรวจของแพทย์ยืนยันว่าพบ สาร “เมทแอมเฟตามีน” ในร่างกายของผู้ถูกจับกุมจริง จึงจับกุมตัว

ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้ พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.ปัว กล่าวว่า เหตุในการจับครั้งนี้ เมื่อมีเหตุที่จะออกหมายจับบุคคลนั้นตาม ป.วิอาญา มาตรา 66 (2) แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลนั้นได้ทัน และมาตรา 92 (4) ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้น หรือคำสั่งของศาลเว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเป็นผู้ค้นและในกรณีดังกล่าวต่อไป (4) เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควร ว่าสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิด หรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรืออาจเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทำความผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่า เนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมา ได้สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือทำลายเสียก่อน และป.วิอาญามาตรา 78(1)(3) พนักงานฝ่ายปกครองหรือ ตำรวจจะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับหรือคำสั่งของศาลนั้นไม่ได้ เว้นแต่ (1) เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้าดังได้บัญญัติไว้ใน มาตรา 80 และ (3) เมื่อมีเหตุที่จะออกหมายจับบุคคลนั้นตาม มาตรา 66 (2) แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลนั้นได้

จึงได้ควบคุมตัวนายอภิเชษฐ์ และนายประพันธ์ ผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง ร.ต.อ.อำนวย บริคุต พงส.สภ.ปัว โดยกล่าวหานายอภิเชษฐ์ ว่ากระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอทเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”, “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และกล่าวหานายประพันธ์ ว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และแจ้งข้อกล่าวหา นายอภิเชษฐ์ เพิ่มเติมว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ดำเนิคดีตามกฎหมายต่อไป