(มีคลิป) ไม่กลัวโควิด-19 เปิดแก่งดง-แก่งหนองมะจับ ริมน้ำปิง ให้ ปชช. เล่นน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้มีผู้ดำเนินการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ต้อนรับฤดูร้อนและมหาสงกรานต์ที่จะมาถึง คือ “แก่งดง” และ “แก่งหนองมะจับ” อยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง ใกล้แยกไปปาย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งแก่งดง อยู่ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง ส่วนแก่งหนองมะจับ จะอยู่บ้านหน่องมะจับ ต.แม่แฝก อ.สันทราย แก่งทั้ง 2 แห่ง เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวคลายร้อน สามารถลงเล่นน้ำปิง และมีบริการอาหารพร้อมเครื่องดื่ม มีโต๊ะนั่งคลายร้อนในน้ำปิง เอาเท้าแช่ในน้ำสัมผัสสายแม่น้ำปิงได้ตลอดทั้งวัน สถานที่ท่องเที่ยว 2 แก่งดังกล่าว ทำเป็นเพิงไม้ไผ่จากตลิ่งขึ้นลงไปในลำน้ำปิง ส่วนใหญ่ตกแต่งสวยงาม มีหลังคามุ้งด้วยใบตองตึง ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ
สอบถามแม่ค้ารายหนึ่ง ทราบว่า ผู้ที่ดูแลและรับผิดขอบสถานที่ ได้จัดเก็บเงินค่าเช่าที่เป็นล็อค เริ่มต้นที่ราคา 10,000-15,000 บาทต่อ 1 ล็อค ทั้งสองฝั่งมีจำนวนประมาณ 100 ล็อค หรือ 100 ร้านค้า ส่วนสถานที่จอดรถนั้นมีบริการ โดยเก็บค่าจอดรถแยกอีกส่วนหนึ่ง ในราคาเริ่มต้นที่ 20 บาทต่อคันขึ้นไป สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ มีบริการห้องน้ำที่ผู้ดูแลได้จัดสร้างขึ้นใหม่ สร้างไว้อยู่หลังร้านค้าหรือหลังล็อคต่าง ๆ ได้สร้างไว้ใกล้ริมแม่น้ำปิง เพื่ออำนวยความสะดวกแบบครบครัน แก่งดง และแก่งหนองมะจับ ดังกล่าว ได้เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวเล่นน้ำ และรับประทานอาหารเครื่องดื่มแล้ว ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ซึ่งเป็นวันแรงงาน

กิจกรรมที่กำหนดไว้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือประเพณีปี๋ใหม่เมืองที่จะมาถึง มีการจัดประกวดนางฟ้าจำแลง หรือประกวดสาวประเภทสอง โดยสร้างแคทวอล์คเป็นทางเดินขัวแตะทำจากไม้ไผ่ เพื่อให้ผู้ประกวดได้เดินยลโฉมท้าลมร้อนกลางลำน้ำปิง มีลานเบียร์บริการ ซึ่งคาดว่าจะสร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวและกองเชียร์ของผู้เข้าประกวด โดยคาดหวังปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเล่นน้ำในทั้ง 2 แก่ง อย่างล้นหลาม
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สัมภาษณ์ นายอนันต์ สิริภาคย์โภคิน กำนัน ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ผู้ริเริ่มจัดพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวแก่งดงแห่งนี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ตนพร้อมกำนันที่ดูแลบ้านหนองมะจับ อ.สันทราย มาขออนุญาตทาง จ.เชียงใหม่ ขอเปิดแหล่งท่องเที่ยว คือ เปิดแก่งเล่นน้ำทั้ง 2 แห่งดังกล่าว ทางจังหวัดเพียงให้คำแนะนำแบบกลาง ๆ
“ส่วนร้านค้าที่เช่าล็อคขายอาหารเครื่องดื่มวันนี้ หากร้านค้าใดพร้อมเปิดบริการก็สามารถขายของอาหารและเครื่องดื่มได้เลย จากที่กำหนดจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่จะมาถึง และเปิดยาวไปถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563”
“ส่วนมาตราการป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้มีเครื่องสแกน 2 เครื่อง ซึ่งจะขอความร่วมมือบุคลากรจาก รพ.สต. และ อสม. ให้มาทำหน้าที่ตรวจสอบคัดกรองนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาเที่ยวแก่งดงเพื่อไว้คัดกรองป้องกันโรคดังกล่าวแล้ว” กำนันอนันต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้ขออนุญาตกรมเจ้าท่าหรือยัง เพราะติดริมน้ำปิง นายอนันต์ กล่าวว่า เคยทำ MOU ร่วมกับกรมเจ้าท่าแล้ว จากที่เคยจัดมาเมื่อปีที่แล้ว ได้ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมได้ดี คือ จะเก็บสิ่งของทั้งหมดออกจากพื้นที่ คืนสภาพธรรมชาติภายใน 7 วัน
สำหรับเงินรายได้ทั้งหมด นายอนันต์ กล่าวว่า การทำทุกอย่างไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว เป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน เงินเข้าไปอยู่ในกองทุนกิจการของชุมชน เช่น เข้าวัด สร้างศาลา สร้างป่าช้า และมอบให้ชุมชน ชรป. รวมทั้งช่วยเรื่องป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าด้วย เมื่อปีที่แล้วสร้างป่าช้าน้ำจำไปแล้วเป็นต้น สามารถตรวจสอบได้ในค่าใช้จ่าย เช่น ค่าขยะ ต้องจ่ายตันละกว่า 1,000 บาท ก็ต้องจัดการให้ดีที่สุด รวมทั้งการดูแลเรื่องห้องน้ำ ก็ต้องดำเนินการให้หมด อย่างไรก็ตาม ยืนยันตนส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของหลวง หรืองบประมาณของรัฐบาลแต่อย่างใด กำนันอนันต์ กล่าวทิ้งท้าย
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีการป้องกันและแก้ไขโรคระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19 WHO ประกาศว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เพราะมีผู้เสียชีวิตในหลายพื้นที่ทั่วโลก กว่า 115 ประเทศ สำหรับประเทศไทย เจ้าหน้าที่ปกครอง โดยเฉพาะกำนันและผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง นายก อปท.ทั่วประเทศ ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานควบคุมกำกับดู และปัญหาโรคติดต่อร้ายแรงดังกล่าวโดยตรง และในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้มีผู้ป่วยเป็นไข้หวัดที่เดินทางมาจากต่างประเทศส่วนหนึ่ง และรวมกับประชาชนทั่วไปอีกส่วนหนึ่ง ที่เข้าข่ายเฝ้าระวัง และขอความร่วมมือ 20 คนดังกล่าว กักตัวเองอยู่ที่บ้าน รวมทั้งหมดจำนวนประมาณ 20 ราย เจ้าหน้าที่รับผิดชอบทั้งด้านสาธารณสุขและด้านปกครองก็ไม่เห็นด้วย กรณีการที่หน่วยงานใดจะจัดกิจกรรมให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง เพราะอาจจะนำปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ไปสู่ประชาชนจำนวนมากยิ่งขึ้นไปอีก และอาจจะควบคุมโรคไม่ได้ เพราะขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งหน้ากากอนามัยก็ยังมีไม่เพียงพอในหลายจังหวัด

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น