(มีคลิป) พิษโควิด-19! “ซู อควาเรียม” เชียงใหม่จ่อเจอทางตัน ปิดหรือไปต่อ

ทาง นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ กรรมการผู้จัดการ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม สถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำในสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมาก ต่อการดำเนินการของ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม จากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งล่าสุดที่ทางองค์การสวนสัตว์ได้ประกาศปิดสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมกับสวนสัตว์ทุกแห่งทั่วประเทศ เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค. 63 ซึ่งยิ่งส่งผลกระทบซ้ำเติมเข้าไปอีก เพราะเท่ากับว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการ และไม่มีรายได้เข้ามาเลย
โดยในฐานะที่เป็นผู้บริหารแล้ว รู้สึกหดหู่และสะเทือนใจอย่างมากที่สุด ที่ต้องเห็นภาพที่ไม่มีนักท่องเที่ยวแม้แต่คนเดียวเข้าใช้บริการเที่ยวชม เพราะตลอด 11 ปีที่ผ่านมา แม้จะประสบปัญหาต่าง ๆ นานามากมาย ทั้งจากปัญหาการเมืองและอื่น ๆ จนต้องขาดทุนสะสมกว่า 200 ล้านบาท แต่ไม่เคยย่อท้อและพยายามดิ้นรนต่อสู้มาตลอด จนกระทั่งเกิดสถานการณ์วิกฤตในครั้งนี้
โดยกรรมการผู้จัดการ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ยอมรับว่า จากสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ เข้าใจดีว่าเป็นเหตุสุดวิสัย และพร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพียงแต่เมื่อพิจารณาทบทวนแล้ว ทางเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ได้รับผลกระทบอย่างมาก จนเหลือทางเลือกเพียง 2 ทางเท่านั้น อย่างแรก คือ ต้องการขอความช่วยเหลือเยียวยาจากทางภาครัฐ โดยเฉพาะจากองค์การสวนสัตว์ที่เป็นผู้ลงทุนร่วมกัน ให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลกันให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ และอีกทางหนึ่งก็คือ การปิดกิจการ โดยเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าจะเลือกดำเนินการเช่นไรดี ซึ่งมีเส้นตายถึงสิ้นเดือนนี้ ทั้งนี้การปิดกิจการนั้น ถือเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะเชียงใหม่ ซู อควาเรียมนั้น ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นเอกลักษณ์และเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งประเทศไทย เพราะเป็นอควาเรียมที่มีอุโมงค์ใต้น้ำ ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งอยู่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล จนได้ชื่อเรียกว่าเป็นทะเลบนยอดดอย
อย่างไรก็ตาม แต่หากถึงที่สุดแล้วและมีความจำเป็น ก็คงต้องตัดสินใจเลือกที่จะปิดกิจการ เพราะคงไม่สามารถแบกรับภาระการขาดทุนสะสมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งค่าจ้างพนักงาน, ค่าอาหารปลา, ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำประปา และค่าบำรุงรักษาและดูแลระบบ รวมแล้วเดือนละประมาณ 3 ล้านบาท ต่อไปได้ แม้โดยส่วนตัวแล้ว จะมีความเป็นห่วงและกังวลใจที่สุด ในเรื่องของการดูแลปลาและสัตว์น้ำในเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ที่เลี้ยงไว้ 30,000-40,000 ตัว ว่าหากต้องปิดกิจการไปแล้ว จะได้รับการดูแลอย่างดีและมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ เพราะเพียงแค่การเดินระบบเฉย ๆ และให้อาหารเพื่อให้ปลาและสัตว์น้ำยังอยู่ได้ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ดังนั้นหากเป็นไปได้อยาก ให้ทางองค์การสวนสัตว์ที่เป็นผู้ลงทุนร่วมกัน หันหน้าเข้ามาพูดคุยหาทางออก และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยากันน่าจะดีกว่า ซึ่งเตรียมทำหนังสือถึงองค์การสวนสัตว์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น