เชียงใหม่ ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม ผู้ประกอบการหลายแห่งได้รับผลกระทบ

เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่าที่ห้องศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ (ศ.ข.ฉ.ก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย น.พ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่ และตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าว สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ประจำวันที่ 23 มี.ค. 63 เพื่อแจ้งข้อมูลความคืบหน้าของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ให้พี่น้องประชาชนทราบโดยทั่วกันผ่านช่องทางไลฟ์สดในเฟสบุ๊ก เพ็จข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังจากที่ทางรัฐบาลได้มีการประกาศให้ทางจังหวัดมีมาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่กระจายและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่สอบถามผลกระทบในภาพรวม เพื่อรวบรวมข้อมูลนำเสนอรัฐบาล โดยพบว่าผู้ประกอบการขอให้ทางธนาคารยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้ยาวนานขึ้น หรือยกเว้นการชำระในช่วงมีสถานการณ์วิกฤต ทางคณะทำงานก็ได้รวบรวมข้อมูลและข้อเสนอต่าง ๆ เอาไว้ และจำเรื่องเสนอรัฐบาลเพื่ออกมาตรการช่วยเหลือต่อไป

ขณะที่ทางด้าน น.พ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ล่าสุดในจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติม ยังคงมีอยู่เท่าเดิมที่ 13 ราย รักษาหายแล้วและสามารถกลับบ้านได้แล้ว 1 ราย และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 12 ราย และจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค 490 ราย กลับบ้านแล้ว 366 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 124 ราย

ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรคติดต่ออันตรายและพื้นที่ระบาดต่อเนื่องจังหวัดเชียงใหม่ มีอยู่ทั้งหมด 470 ราย กักตัวสังเกตอาการอยู่ที่บ้าน 102 ราย อยู่ในสถานที่จังหวัดเตรียมไว้ให้ 9 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว 26 ราย ติดตามครบแล้ว 14 วัน 333 ราย นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตั้งจุดคัดกรอง 3 จุด คือ 1. สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่แห่งที่ 3 2. สถานีรถไฟเชียงใหม่ และ 3. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครและจากต่างพื้นที่ ต้องถูกตรวจคัดกรองทุกคน และเมื่อผ่านจุดคัดกรองไปแล้ว ต้องไปกลับไปกักตัวเองที่บ้านอีก 14 วัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น