(มีคลิป) พ่อเมืองเชียงใหม่ ลงพื้นที่บัญชาการเอง หลังเกิดไฟไหม้ บนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซ้ำอีกรอบ

ช่วงค่ำวานนี้ (25 มี.ค.63) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ บริเวณจุดเกิดเหตุไฟไหม้บนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยได้ประสานกำลัง จนท.จากหลายหน่วยงาน และรถดับเพลิง ร่วมกันดับไฟบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งชุดสถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์, ชุดเสือไฟ กรมอุทยานฯ, ชุดเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้, จนท.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16, สนง.ทสจ.เชียงใหม่, สนง.ปภ.จ.เชียงใหม่, อบจ.เชียงใหม่, ทต.สุเทพ อปท.ในพื้นที่ อ.เมือง ชรบ. อปพร. กำนัน-ผญบ. อาสาสมัคร และเครือข่ายจิตอาสา บริเวณบ้านม้งดอยปุย รวมกว่า 400 นาย

ทั้งนี้ด้วยในช่วงเย็นเหตุในบริเวณดังกล่าว ได้ลามเป็นวงกว้าง โดยเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนมีเหวลึก ยากแก่การเข้าถึง อีกทั้งเป็นป่าเต็งรังที่มีใบไม้แห้งเป็นเชื้อเพลิง ทำให้ไฟลุกลามเป็นแนวยาว ซึ่งเวลาประมาณ 20.30 น. จนท.และรถดับเพลิง ได้ระดมกันเข้าไปควบคุมไฟบนยอดดอยปุย ซึ่งลุกลามเป็นแนวยาวตามสันเขาลัดเลาะขึ้นมา เหนือบริเวณเหนือพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โดยมี ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เข้ามาบัญชาการเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือกระแสลมที่แรง ทำให้พัดสะเก็ดไฟข้ามแนวกันไฟที่ จนท.ได้ทำไว้ ลุกลามเพิ่มตามแนวสันเขาเป็นวงกว้าง ประกอบกับผู้ปฏิบัติงานเหนื่อยล้า หลังจากต้องเข้าควบคุมไฟติดต่อกัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 25 มี.ค. ข้ามมาจนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 26 มี.ค. รวม 14 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้เป็นวงจำกัด ซึ่งได้ถอยกำลังลงมาเฝ้าระวังในจุดที่ปลอดภัย เนื่องจากมีควันปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ด้านบนมีอากาศหายใจน้อย ต้องใช้ความระมัดระวังสูง โดยได้ทำแนวกันไฟป้องกันไว้โดยรอบ และมีรถน้ำพร้อมเข้าไปยังพื้นที่หากเกิดการลุกไหม้เพิ่มเติมตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของพื้นที่เสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน

เบื้องต้นในเช้าวันนี้ (26 มี.ค.63) จะขอกำลังทีมโดรนอาสา บินสำรวจเพื่อชี้พิกัดให้กับ เฮลิคอปเตอร์ MI-17 จากกองทัพบก ในการเข้าดับไฟ รวมทั้งจะนำเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวนทั้งหมด 3 ลำ ช่วยสนับสนุนในภารกิจด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น