ปภ.รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 15 จังหวัด คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากอิทธิพลกระแสลมตะวันตกระดับบน เคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุม รวมถึงลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ ได้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา ยโสธร อุบลราชธานี และชลบุรี รวม 47 อำเภอ 101 ตำบล 369 หมู่บ้าน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว

นายมณฑลสุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลกระแสลมตะวันตกระดับบน เคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะที่ประเทศไทยตอนบน มีหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุม รวมถึงลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ ได้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคกลาง ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ทำให้ในช่วง วันที่ 20 มีนาคม 2563 – ปัจจุบัน (26 มี.ค.63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา ยโสธร อุบลราชธานี และชลบุรี รวม 47 อำเภอ 101 ตำบล 369 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,857 หลัง วัด 4 แห่ง ผู้บาดเจ็บ 4 ราย และผู้เสียชีวิต 6 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหา รองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภค-บริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสมอีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบ และหลักเกณฑที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น