สธ. ดึงร้านกาแฟ 11 แบรนด์ ร่วมนโยบาย ‘หวานน้อยสั่งได้’ สร้างนิสัยคนไทยลดติดหวาน

วันนี้ (27 มีนาคม 2563) นายเรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมขับเคลื่อนนโยบาย “หวานน้อย สั่งได้” ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย ว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ดร.สาธิต ปิตุเตชะ) ได้ประกาศนโยบาย “หวานน้อยสั่งได้” เพื่อสร้างความตระหนักถึงการกินน้ำตาลที่มากเกินไปที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ โดยมีคาเฟ่อเมซอน (CAFÉ Amazon) เข้าร่วมนโยบายดังกล่าว และการประชุม ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากร้านกาแฟแบรนด์อื่นอีก 10 แบรนด์ที่มีสาขาทั่วประเทศร่วมขับเคลื่อนนโยบายฯ ได้แก่

1. คาเฟ่อเมซอน (CAFÉ Amazon)
2. อินทนิล (inthanin)
3. ออลคาเฟ่ (All Cafe)
4. คัดสรร (KUDSAN)
5. เบลลินี่ (Bellinee’s)
6. กาแฟมวลชน (KAFFE MUANCHON)
7. กาแฟมวลชน @ซีพีเฟรซมาร์ท
8. กาแฟจังเกิ้ล (Jungle)
9. กาแฟอราบิเทีย (Arabitia Cafe)
10. ดอยช้าง (DOI CHAANG)
และ 11. ทรูคอฟฟี่ (TRUE Coffee)
ที่ได้คิดค้นเครื่องดื่มสูตรหวานน้อยจำหน่ายในร้านของตนเอง และร่วมประชาสัมพันธ์นโยบาย “หวานน้อยสั่งได้” เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนเลือกเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ รวมทั้ง มุ่งหวังให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายภาคเอกชนเป็นกำลังสำคัญ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ และฟันผุทางด้าน แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า หากประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินน้ำตาล โดยเริ่มต้นจากเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ผสมน้ำตาลในชีวิตประจำวัน เช่น ชานม ชาเขียว กาแฟ โกโก้ หรือนมเย็น โดยสั่งสูตรหวานน้อย หรือลดขนาดเครื่องดื่มเป็นขนาดเล็กลง จะช่วยลดปริมาณน้ำตาล ที่จะได้รับในแต่ละแก้วได้ และสำหรับเครื่องดื่มสำเร็จรูปที่มีวางจำหน่าย เช่น น้ำอัดลม นมเปรี้ยว น้ำผลไม้ ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ โดยเลือกแบบที่ไม่เติมน้ำตาลเป็นดีที่สุด รองลงมาคือ เติมน้ำตาลไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ หากน้ำตาลเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าหวานจัด ที่ควรต้องหลีกเลี่ยง

ร่วมแสดงความคิดเห็น