จังหวัดลำปาง​ ดำเนินคดีพบผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง เจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ จำนวน​ 1​ ราย

วันที่ 3​ เมษายน 63 ศาลแขวงลำปาง ได้มีคำพิพากษากรณีพบผู้ที่อยู่ในกลุ่มเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังความเสี่ยง จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ในเขตพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง จำนวน 1 ราย ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้ร่วมเดินทางมากับบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทางเจ้าพนักงานในพื้นที่จึงสั่งให้แยกกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 63 ถึงวันที่ 11 เมษายน 63 โดยบุคคลรายนี้ได้รับทราบตามคำสั่งแล้ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 63 บุคคลดังกล่าวได้เดินทางออกจากบ้านพัก ไปพบปะบุคคลอื่นภายในหมู่บ้าน พร้อมทั้งชักชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุมที่บ้านพักที่เกิดเหตุ อันเป็นการฝ่าผืนคำสั่งตาม หนังสือของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ให้แยกกัก กักกันหรือควบคุมไว้สังเกต โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จึงได้เข้าแจ้งพนักงานสอบสวนและภายหลังได้ ให้การรับสารภาพ ทางศาลฯจึงเห็นสมควรว่า มีความผิดฐานพระราชบัญญัติโรคติดต่อตามกฎหมาย พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34,51 ประมวลกฎหมายอาญา 29,30 ให้กักขัง 15 วัน แทนค่าปรับ 7,500 บาท ณ สถานที่กักขังกลางจังหวัดลำปาง ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
สำหรับการดำเนินการดูแลผู้กักขังกรณีดังกล่าวนั้น ทางสถานกักขังกลางจังหวัดลำปางได้ปฏิบัติตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด ซึ่งกำหนดให้ผู้กักขังเข้าใหม่ต้องได้รับการตรวจคัดกรองจากทางโรงพยาบาล พร้อมกับแยกไปควบคุมไว้ที่ห้องแยกโรคเป็นเวลา 14 วัน โดยผู้กักขังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาและงดให้ญาติเยี่ยมผู้ต้องกักขังในช่วงระหว่างสังเกตอาการ เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ตามมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์ จากโรคติดเชื้อไวรัส COVID – 19
ทั้งนี้ทางจังหวัดลำปาง จึงขอความร่วมมือประชาชนได้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆของทางจังหวัด ตลอดจนคำแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัส  COVID – 19 หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น