เชียงใหม่ พบผู้ป่วยเพิ่ม 1 ราย รวม 37 ราย ขณะที่คนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศ เชียงใหม่ รายงานแล้ว 3 ราย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 เม.ย. 63 ที่ห้องศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ (ศ.ข.ฉ.ก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ด้านระบาดวิทยา ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายชูชีพ พงษ์ไชย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถลงข่าว สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่  ประจำวันที่ 4 เม.ย. 63 เพื่อแจ้งข้อมูลความคืบหน้าของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ให้พี่น้องประชาชนทราบโดยทั่วกัน ภายหลังจกาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเฝ้าติดตามสถานการณ์ และข้อมูลที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
โดยทาง นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ด้านระบาดวิทยา ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวน 89 ราย จำนวนผู้ป่วยสะสม 2,067 ราย และในวันนี้เป็นวันที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 100 คน และพบว่าจำนวนเริ่มลดลง ผู้ป่วยที่กลับบ้านแล้ว จำนวน 612 คน และสำหรับสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มเติม 1 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งหมดในจังหวัดเชียงใหม่ 37 ราย โดยในจำนวนนี้กลับบ้านแล้ว 6 ราย และอีก 31 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ขณะเดียวกันในการเฝ้าระวังผู้ป่วยสุ่มเสี่ยง ก็ได้มีการสุ่มตรวจเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้ป่วยสะสมที่ได้มีการตรวจสอบไปแล้วตอนนี้มีทั้งสิ้น 736 ราย และจำนวนนี้กลับบ้านจำนวน 645 ราย มี 91 รายที่กำลังรอผลตรวจและติดตามดูอาการอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนในเรื่องของการติดตามผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่มีการประกาศเป็นเขตติดโรคที่มีการระบาด รวมถึงจังหวัดที่มีการประกาศและเฝ้าระวังของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ยอดสะสมของผู้ป่วยของผู้ที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีจำนวน 8,242 ราย ติดตามครบ 14 วันไปแล้ว 1,093 ราย และอีก 7,149 ราย กำลังติดตามร่วมกับเครือข่ายในแต่ละอำเภออยู่ สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จำนวน 1,176 ราย และติดตามแล้ว 872 ราย และเหลืออีก 200 กว่ารายที่กำลังติดตาม
สำหรับประวัติและความเสี่ยงของผู้ป่วยยืนยันรายล่าสุด เป็นเพศหญิงอายุ 21 ปี มีอาชีพรับจ้างอิสระ ทำงานเอ็นเตอร์เทน โดนมีประวัติเสี่ยง คือ ได้เดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดในสถานบันเทิง แล้วหลังจากที่มีการประกาศปิดไปแล้วแต่ยังมีการจัดเลี้ยงกันเป็นกลุ่ม 20-30 คน ในห้องเช่าแห่งหนึ่งใกล้กับแยกวิทยุธานินทร์ ซึ่งตอนนี้กำลังติดตามและสอบสวนเพิ่มเติม โดยจะเห็นว่าผู้ป่วยรายนี้มีความเสี่ยงโดยสัมผัสกับสถานบันเทิง และมีประวัติการเดินทางไปที่ที่มีการประกาศไปแล้ว ว่ามีการระบาด จากนั้นผู้ป่วยก็ได้เฝ้าระวังและได้มีการมาตรวจพบว่าวันที่ 23 มี.ค. 63 ก็มีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และอาการเจ็บคอ จึงได้มาตรวจที่โรงพยาบาล และพบว่ามีเชื้อโควิด-19 และเป็นผู้ป่วยยื้นยัน สำหรับในกลุ่มผู้สัมผัส ที่มีโอกาสที่มีการติดเชื้อขณะนี้มีผู้สัมผัสร่วมบ้าน 1 ราย และเพื่อนสนิทอีก  3 คน ที่มีประวัติไปมาหากันในระหว่างที่เริ่มมีอาการ และยังมีการติดตามผู้สัมผัสตามสถานที่บันเทิง รวมถึงสถานที่ใหม่ที่มีการเพิ่มเติมขึ้นมาคืองานเลี้ยงในห้องเช่าดังกล่าวในวันที่ 20 มี.ค. 63 ด้วย
ขณะที่ทางด้าน นายชูชีพ พงษ์ไชย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการรับรายงานตัวของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กรณีคนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศ เข้าประเทศไทย ในวันที่ 3 เม.ย. 63 ว่า มีจำนวนผู้เดินทามาทั้งหมด 158 คน โดยไม่ได้เข้ากระบวนการตามมาตรการของรัฐบาลที่กำหนดในเรื่องของการกักกันตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการประสานจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จากทั้งที่ศูนย์กลางที่กรุงเทพมหานคร และที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ ประสานมายังผู้ว่าราชการจังหวัด และได้มอบหมายให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดรับทราบข้อมูล ซึ่งในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนทั้งสิ้น 4 ราย โดยการดำเนินการทั้ง 4 ราย ตรวจสอบทราบว่า 3 ราย ที่อยู่ในพื้นที่ อำเภอสันทราย, ดอยสะเก็ด และหางดง ทั้ง 3 ราย ได้ไปรายงานตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 1 รายที่ปรากฎอยู่ที่อำเภอฝาง จากข้อมูลการประสานร่วมกันทราบว่าผู้โดยสารรายดังกล่าวได้เดินทางไปบ้านลูกที่อําเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ทางจังหวัดจึงได้ประสานไปยังจังหวัดชัยภูมิ ให้ผู้โดยสารรายดังกล่าวได้ไปรายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น