ส. ลูกหนังไทย ส่อเลื่อนศึกลูกหนังไทยลีก 1-4 ไปเตะ สิงหาคม 2563

“สมยศ” เผยไทยลีก ส่อแววต้านไวรัสไม่ไหว โยกโปรแกรมอีกรอบ จากต้น พ.ค. ไปเตะเดือน ส.ค. รวมเวลาพักกว่า 5 เดือน เล็งตัดบอลถ้วยออก 1 รายการ เพื่อเคลียร์คิว ปรึกษาสโมสร อาจเล่นเลกเดียวจบจับตาชี้ขาดในการประชุมสภากรรมการ
การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพไทย ทั้งไทยลีก 1-4 เป็นอีกส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทย ซึ่ง รัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-30 เม.ย. โดย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป ตั้งแต่จบแมตช์ เมื่อต้นเดือน มี.ค. กำหนดจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 2-3 พ.ค.

อย่างไรก็ตาม ด้วยการแพร่ระบาดที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้มีข้อสงสัยว่า ศึกไทยลีก 1-4 จะกลับมาเตะได้ตามกำหนดหรือไม่ เรื่องนี้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยอมรับว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนตัวคิดว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่การแข่งขันจะเลื่อนออกไปในเดือน ส.ค. 63 และอาจต้องตัดการแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการใดรายการหนึ่งออกไป
ประมุขลูกหนังไทย กล่าวว่า ตอนนี้ทุกสโมสรได้ปล่อยนักเตะกลับบ้านหมดแล้ว จากระยะเวลาของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กว่าจะกลับมารวมทีมซ้อมอีกที ก็ต้องสิ้นเดือน เม.ย. ดังนั้นเชื่อว่าฟุตบอลลีกไทยน่าจะยืดเวลาในการพักเบรกออกไปอีก เพราะการที่แต่ละทีมไม่สามารถซ้อมร่วมกันได้จะขาดความพร้อมทั้งเรื่องแท็กติก และสภาพความฟิตของนักเตะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแต่ละทีมต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมอย่างน้อย 6 สัปดาห์ก่อนลงสนาม ดังนั้นการที่จะมาเตะวันที่ 2-3 พ.ค. จึงเป็นเรื่องลำบาก นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติเมื่อไหร่ และก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่า รัฐบาลจะมีมาตรการใดๆ ออกมาอีกหรือไม่ รวมทั้งอาจยืดเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

บิ๊กอ๊อด กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวเชื่อว่าอย่างเร็วที่สุดฟุตบอลไทยลีกจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งน่าจะเดือน ส.ค. หากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องยกเลิกฟุตบอลถ้วยรายการใด รายการหนึ่ง เพราะโปรแกรมจะแน่นมาก
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมสภากรรมการ วันที่ 7 เม.ย. ซึ่งเป็นการประชุมแบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ นั้น จะมีการนำเรื่องเลื่อนไทยลีกไปเตะ ส.ค. เข้าสู่ที่ประชุม นอกจากนี้ หากได้ข้อสรุปว่าจะเลื่อนไป ส.ค. จะเท่ากับว่า ต้องหยุดไปกว่า 5 เดือน จากนั้นด้วยเวลาที่น้อยลง ก็จะมีการหารือสโมสรสมาชิก ถึงแนวทางการจัดแข่งขัน เช่น จะจัด 2 เลก โปรแกรมเต็มตามเดิม หรือจะตัดเหลือแค่เลกเดียวเท่านั้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น