เปิดวิสัยทัศน์ CEO AIS นำพลานุภาพ 5G ร่วมแก้วิกฤติ COVID-19 เพื่อคนไทย กางแผนภารกิจเร่งด่วน ใช้งบกว่า 100 ล้านบาท ทุ่มสรรพกำลัง เครือข่าย นวัตกรรม บุคลากร นำ 5G เสริมทัพ สนับสนุนการแพทย์ ช่วยลดเสี่ยง ลดงาน หมอพยาบาล จัดทัพองค์กร! รวมพลังทุกภาคส่วน พาประเทศก้าวข้ามวิกฤติไปด้วยกัน
8 เมษายน 2563 เอไอเอส โดยนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกาศวิสัยทัศน์ ผู้นำด้านดิจิทัลไลฟ์เพื่อคนไทย เดินหน้าจัดทัพองค์กร ทุ่มสรรพกำลัง ทั้งเครือข่าย เทคโนโลยีสำคัญใหม่ล่าสุดอย่าง 5G และ พลังของ “คน” เอไอเอส ร่วมพาคนไทยฝ่าวิกฤติไวรัส COVID-19 ล็อคเป้านำ 5G สนับสนุนบริการทางการแพทย์ และงานสาธารณสุข ด้วยศักยภาพของ 5G ที่มีพลานุภาพสูงมาก ทั้งในแง่ของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีความเร็ว (Speed) การตอบสนองต่อการสั่งงานที่รวดเร็ว มีความหน่วง (Latency) ต่ำ พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ที่หลากหลาย (IoT Connectivity) จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะนำมาประยุกต์ใช้เป็นโครงข่ายดิจิทัลพื้นฐานสำคัญต่อการปฏิบัติงานทางการแพทย์
ซึ่งเอไอเอสมีประสบการณ์การทดลองทดสอบ 5G ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งการแพทย์ จึงเชื่อมั่นว่า 5G จะเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมแก้ปัญหา พาประเทศก้าวพ้นวิกฤติ COVID-19 เปิด 3 ภารกิจ “AIS 5G สู้ภัย COVID-19” เพื่อคนไทย โดยใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
1. ติดตั้งเครือข่าย 5G ใน 20 รพ. ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วย COVID-19 และกำลังขยาย Coverage 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่ รพ. ในกทม.และปริมณฑลอีก 130 รพ. และในต่างจังหวัดอีก 8 รพ. รวมทั้งสิ้น 158 รพ. ภายในเดือนเมษายน 2563 เพื่อรองรับการปฏิบัติงานของเทคโนโลยีและโซลูชันส์ทางการแพทย์ ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการตอบสนองที่รวดเร็วอย่างยิ่ง 5G จึงเป็นโครงข่ายที่เหมาะสม เพราะทุกวินาทีมีความหมายต่อชีวิต นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุนระบบสื่อสาร ทั้ง AIS FIBRE, 4G, AIS Super WiFi และสมาร์ทดีไวซ์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรพ.
2. ผลักดันนวัตกรรมการแพทย์ในช่วงการระบาด COVID-19 ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Lab ระดมนักวิจัยนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine และโซลูชันส์งานบริการทางแพทย์ โดยทำงานร่วมกับ รพ. เพื่อให้สอดรับกับความต้องการเฉพาะของแต่ละรพ. พร้อมเปิดกว้างในการพัฒนาหุ่นยนต์ร่วมกับคนไทยทุกภาคส่วน
3. พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine เวอร์ชั่นใหม่ ROBOT FOR CARE จำนวน 21 ตัว โดย AIS Robotic Lab ทยอยส่งมอบให้กับรพ. 20 แห่ง ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วย COVID-19 เพื่อให้หุ่นยนต์ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหมอพยาบาล ตรวจคัดกรองคนไข้ ด้วยระบบอัจฉริยะ Thermoscan, ระบบปรึกษาทางไกลระหว่างคนไข้และหมอผ่าน VDO CALL โดยที่หมอกับคนไข้ไม่ต้องอยู่ในห้องเดียวกัน หรือสัมผัสใกล้กัน โดยสามารถบังคับหุ่นยนต์ให้เคลื่อนที่ผ่าน 5G ช่วยแบ่งเบาภาระ ลดการแออัด และลดเสี่ยงติดเชื้อทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแทพย์
“วิกฤติในครั้งนี้ ทุกคนมีส่วนร่วมในการนำประเทศชาติ ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปพร้อมกันได้ ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทหน้าที่ใด เราต่างก็มีหัวใจเดียวกันที่พร้อมจะช่วยเหลือและประคับประคองให้บ้านเมืองเรา สามารถก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ สำหรับเอไอเอสในฐานะภาคเอกชนซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแล “Digital Infrastructure” ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มหัวใจสำคัญของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานที่กำลังทำงานอยู่ที่บ้าน Working from home, นักเรียน นักศึกษา Learning from Home และสำคัญสุดคือ งานบริการสาธารณสุขและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ต้องรองรับการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเรา ล้วนแล้วแต่ใช้ Digital Infrastructure เป็นสื่อกลางทั้งสิ้น
ผมเน้นย้ำเสมอว่า หน้าที่ของชาวเอไอเอสทุกคนที่คิดอยู่ในทุกลมหายใจ คือจะต้องรักษาเครือข่ายและบริการของเราอย่างดีที่สุด บริการของเราต้องต่อเนื่องด้วยคุณภาพมาตรฐานของเอไอเอสเช่นเดิม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เรายังคงยืนหยัดและตั้งมั่นในฐานะ Digital life service provider for Thais เช่นเดิม ว่าเราจะทำหน้าที่ให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด และพร้อมนำศักยภาพและขีดความสามารถต่างๆ ที่เรามีร่วมสนับสนุนภารกิจของประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้” นายสมชัย กล่าว
โดยเอไอเอสได้วางนโยบายการบริหารจัดการ และมาตรการช่วยเหลือ ดูแล เพื่อมอบความอุ่นใจและกำลังใจให้ลูกค้า คนไทย และพนักงานทุกคน ดังนี้
1. ดูแลลูกค้าอุ่นใจ
นับจากที่การแพร่ระบาดในประเทศเริ่มรุนแรงขึ้น เรามีแผนความพร้อมด้านเครือข่ายทั้ง Mobile และ Fibre รวมถึง ช่องทางบริการ Online เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน ตลอดจน แพ็กเกจ โซลูชันส์ สิทธิพิเศษ และคอนเทนต์บันเทิง เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกด้าน โดยเตรียมแผน BCP – Business Continuity Plan ภายใต้เป้าหมายว่า ‘ลูกค้าทุกท่านจะต้องใช้บริการคุณภาพได้ดีเช่นเดิม’
การใส่ใจดูแลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ต้องคิดอย่างรอบด้าน และทันต่อสถานการณ์ “ในช่วงแรกที่สถานการณ์เริ่มขยายตัว เอไอเอส ได้มอบความคุ้มครอง ประกันภัย COVID-19 ให้กับลูกค้าฟรีเป็นรายแรก จนกระทั่งในปัจจุบัน ซิมหลายแพ็คเกจของเราที่ขายในตลาดก็ยังมอบประกันภัยโควิดไปด้วยเช่นกัน และยังได้มอบความคุ้มครองนี้ให้กับพนักงานเอไอเอสทุกระดับ, คู่ค้า และช่างติดตั้ง AIS Fibre ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานใน Touchpoint ที่อาจมีความเสี่ยงอีกด้วย
ขณะที่ แนวคิด Social Distancing ถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เราจึงได้
จัดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตและโซลูชัน AIS Working From Home โดยความร่วมมือเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์กับ Microsoft เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำงาน ทำธุรกิจ จากที่บ้าน ได้อย่างไร้รอยต่อ รวมทั้ง การสนับสนุนภาคการศึกษา ออก Student SIM card แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตราคาประหยัด ให้นักเรียน นักศึกษา ได้เรียนหนังสือจากที่บ้าน
รวมไปถึงการมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเอไอเอสชมฟรี! ความบันเทิงบน AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX และยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี ยอดนิยมของคนไทย ได้แก่ foodpanda และ LINE MAN มอบส่วนลดสั่งอาหารและค่าส่ง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสถานการณ์นี้ให้สะดวกและอุ่นใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพร้อมบริการบนออนไลน์ ทั้งแอป my AIS, AIS Online Store และ AIS Contact Center ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้าสามารถธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกเช่นเดิม
ในขณะเดียวกัน ยกระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยลูกค้าและพนักงาน ที่ยังคงจำเป็นต้องมาใช้บริการที่ AIS SHOP ด้วยการติดตั้งแผงกั้นอะคริลิคใส ณ เคาน์เตอร์บริการ เพื่อปกป้องและเพิ่มระยะห่าง ระหว่างลูกค้าที่มารับบริการกับพนักงาน เพื่อลดความเสี่ยง และสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า
ร่วมแสดงความคิดเห็น