ผู้ว่าฯ ลำพูน เตรียมตั้งกรรมการสอบสวนความไม่ชอบมาพากล การจัดซื้อสิ่งของช่วยคนชรา 17 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา จากกรณีกระแสข่าวในโซเชียลและตามสื่อหลายแห่งเปิดโปง ว่า อบจ.ลำพูน ใช้เงินจำนวนถึง 17 ล้านบาท ไปซื้อถุงน้ำใจหรือ แคร์เซ็ต ให้กับคนอายุ 70 ปี ที่ต้องอยู่บ้านตามคำสั่งของจังหวัดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากโรคระบาด โควิด-19 โดยทาง อบจ. ได้ทำการจัดซื้อ ชุด แคร์เซ็ตหรือ ถุงน้ำใจ รวมทั้งหมด 27,700 ชุด ชุดละ 590 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 17 ล้านบาท จนมีคนท้วงกันว่าทำไมซื้อเยอะ ทำไมของแพง และข้างในไม่เห็นมีอะไรเลย นอกจาก ยาสีฟัน แปรงฟัน ช้อน ส้อม

ซึ่งสงสัยว่า “ทำไมไม่ซื้อของที่กินได้ ในยุคที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง เป็นเกี่ยวกับเรื่องนี้”

ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบกับ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.ลำพูน เพื่อสัมภาษณ์ เบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการออกมาแจ้งว่า

“ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เรื่องจังหวัดได้มีประกาศห้ามคนที่มีอายุ 70 ปี และเด็กต่ำกว่า 5 ขวบพึงต้องปฎิบัติตัวคือไม่ออกจากบ้านเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ถือเป็นคำสั่งที่ทางส่วนกลางเขากำหนดมาทุกจังหวัดก็ออกประกาศเหมือนกับที่ห้ามคน 70 ปี ออกมา แต่ทีนี้เมื่อห้ามเช่นนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูนก็เสนอในที่ประชุมว่า ถ้าไม่ให้เขาออกจากบ้านก็ควรจะมีถุงยังชีพที่ให้เขาอยู่ได้โดยสุขภาพอนามัยเขาดีด้วย เช่น หาอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยเพื่อให้เขาดำรงชีพอยู่ได้และไม่แพร่กระจายเชื้อและไม่รับเชื้อจากคนอื่นด้วย หลักการนายแพทย์สาธารณสุขก็เสนอแบบนี้ ในที่ประชุมไม่ขัดข้องเพราะยังไม่ทราบจำนวนคนที่จะเดือดร้อนเท่าไหร่ จึงมอบให้ อบจ.ลำพูนไปพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ก็ทิ้งไว้เช่นนั้นตามมติของคณะกรรมการควบคุมโรค แต่ต่อมาเป็นว่า อบจ.ท่านได้ตัวเลขจากไหนก็ไม่ทราบ เพราะคนอายุ 70 ปี ของลำพูน มี 27,000 คน แล้วเขาไปจัดซื้อเองเลยหาอุปกรณ์ว่าซื้อแปรงสีฟันยาสีฟัน สบู่ จานช้อนแก้วอะไรต่าง ๆ เพื่อให้เขาแยกการใช้ในครอบครัวจะไม่ได้ปนกัน แต่ก็ไม่มีปัญหากับประเภทของที่ซื้อ ตามวัตถุประสงค์ที่จะให้เขาแยกของกินของใช้ออกจากครอบครัวจะได้ไม่ติดเชื้อในคนอายุ 70 ปี แต่ประเด็นก็คือ อบจ.ไปซื้อตั้ง 2 หมื่นกว่าชิ้น เป็นเงินกว่า 17 ล้านบาท” 

ผวจ.ลำพูน ยังกล่าวต่อว่า ส่วนของที่ซื้อก็ไม่สมราคาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ อบจ.จะต้องชี้แจงที่มา ที่ไป ต่อคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วย ทั้งพาณิชย์จังหวัดเป็นต้น ซึ่งตอนนี้ทาง นายก อบจ.จะต้องชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร และจะต้องไม่ชี้แจงด้วยวาจา เพราะใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ หากพบว่ามีความผิดจริง เช่น ราคาแพงเกินจริงทำให้ทางราชการเสียหายก็จะต้องถูกสั่งให้คืนเงินที่จัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งจะต้องพิจารณาโทษทางวินัยด้วย” 

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 19 เมษายน 2563 ทางด้าน นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้เข้าพบกับ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเพื่อรายงานชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน กล่าวว่า ได้ชี้แจงกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดในเบื้องต้นแล้วว่า ถุงที่มอบให้กับผู้สูงอายุนั้น รวมทั้งสิ้น 27,700 ชุด ราคาชุดละ 590 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 16 ล้านกว่าบาท ซึ่งได้ดำเนินการมอบไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่ถุงยังชีพแต่อย่างใด โดยโครงการนี้ เร่งด่วนมาก ต้องดำเนินการภายใน 7 วัน เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดตอนนี้กำลังรุนแรง บางห้างร้านไม่สามารถที่จะจัดหาให้ได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็จะมีการตรวจสอบภายในกับคณะกรรมการจัดซื้อด้วย พร้อมจะให้มีการตรวจสอบได้ด้วย

อ่านข่าวต่อได้ที่ :

ตะลึง ! พบถุงแคร์เซ็ต งบ 17 ล้านบาท ถูกเก็บไว้ กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองลำพูน เป็นจำนวนมาก >>https://www.chiangmainews.co.th/page/page/archives/1327760

ชาวลำพูนติดตาม ปม อบจ.แจกแคร์เซ็ต ใช้งบบานตะไท >>https://www.chiangmainews.co.th/page/page/archives/1329721

ผู้ว่าฯ ลำพูน ขอเวลาให้คณะกรรมการตรวจสอบ 1 สัปดาห์ จะทราบผล กรณีถุงแคร์เซ็ต อบจ. แจกผู้สูงอายุ ราคาเกินจริง >>https://www.chiangmainews.co.th/page/page/archives/1332015

ผลสอบ อบจ.ลำพูน ออกแล้ว ! ผลสอบชุดแคร์เซ็ต ต้องคืนเงินเต็มจำนวนกว่า 16 ล้านบาท สั่งฟันต่อ ทั้งทางวินัยและอาญา >>https://www.chiangmainews.co.th/page/page/archives/1334999

พ่อเมืองลำพูน ตั้งรองผู้ว่าฯ เป็นหัวหน้าดำเนินการสอบวินัย ข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำ ไม่ต่ำกว่า 10 ราย >>https://www.chiangmainews.co.th/page/page/archives/1335788

ร่วมแสดงความคิดเห็น