ลดค่าเทอมให้นักศึกษา มช. 4,500 บาท ทุกคน แก้ปัญหาช่วงวิกฤติโควิด-19 กระทบภาระค่าใช้จ่ายครอบครัวนักศึกษา

อธิการบดี มช. นั่งหัวโต๊ะ เปิดแถลง ลดค่าเทอมให้นักศึกษา 4,500 บาท ทุกคน แก้ปัญหาช่วงวิกฤติโควิด กระทบภาระค่าใช้จ่ายครอบครัวนักศึกษา ขณะที่ทางด้านตัวแทน นศ. พอใจมาตรการช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 เม.ย. 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณห้องประชุมสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณาจารย์ และประธานสภานักศึกษา และตัวแทนนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดแถลงข่าว เกี่ยวกับเรื่องการลดค่าธรรมเนียมการเรียนของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทุกระดับชั้น เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลให้นักศึกษาและผู้ปกครองได้ทราบโดยทั่วกัน ภายหลังจากมีกรณีที่เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคลื่อนไหวเรียกร้อง ขอให้มหาวิทยาลัยลดค่าธรรมเนียมการศึกษา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศลดให้ 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้นักศึกษายังไม่พอใจ โดยระบุว่าไม่สอดคล้องกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้จากการเปิดเผยข้อมูลในที่ประชุมพบว่า นักศึกษาทั้งหมดของมหาวิทยาลัย จำนวนทั้งสิ้น 34,616 คน มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่ภาคเหนือ 73.56 เปอร์เซ็นต์ ภาคกลาง 16.39 เปอร์เซ็นต์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4.19 เปอร์เซ็นต์ ภาคใต้ 3.64 เปอร์เซ็นต์ ภาคตะวันออก 1.49 เปอร์เซ็นต์ และภาคตะวันตก 0.73 เปอร์เซ็นต์ สำหรับจำนวนนักศึกษาแยกตามอาชีพผู้ปกครอง พบว่า ธุรกิจและค้าขาย สูงถึง 35.65 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นข้าราชการและพนักงานของรัฐ จำนวน 33.81 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกรรมและประมง 9.58 เปอร์เซ็นต์ ลูกจ้างและพนักงานเอกชน 7.04 เปอร์เซ็นต์ และยังพบว่าเป็นผู้ไม่มีเงินเดือนหรือไม่ระบุ อื่น ๆ จำนวน 13.92 เปอร์เซ็นต์ และจำนวนนักศึกษาแยกตามกลุ่มรายได้ของผู้ปกครอง พบว่า มีรายได้ 150,000 – 300,000 บาทต่อปี 43.86 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่า 150,000 บาทต่อปี 28.33 เปอร์เซ็นต์ และมากกว่า 300,000 บาทต่อปี 27.81 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยได้รับทุน กยศ. กรอ. และทุนขาดแคลนปี 62 โดยพบว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 84.6 ล้านบาท โดยทุน กยศ. และ กรอ. จำนวน 5,224 ทุน และทุนขาดแคลน จำนวน 5,263 ทุน

โดยทาง ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่ากบม.มีมติลดค่าธรรมเนียมการศึกษา 4,500 บาท ถ้วนหน้าทุกระดับและหลักสูตร ในกรณีที่มีค่าธรรมเนียมการศึกษาไม่เกิน 45,00 บาท โดยจะลดให้ในเทอม 1 และ เทอม 2 ของปีการศึกษา 2563 ที่กำลังจะถึงนี้ ส่วนภาคเรียนฤดูร้อน ปีการศึกษา 2652 ลด 2,250 บาท ส่วนกรณีคณะและหลักสูตรที่ค่าธรรมเนียมการศึกษามากกว่า 45,000 บาท จะลดให้เป็นสัดส่วน 10 เปอร์เซ๋นต์ ในภาคการศึกษาฤดูร้อน ปีการศึกษา 2562 และ ภาคการศึกษาที่ 1 และ 2 ของปีการศึกษา 2563

นอกจากนี้ยังมีมติลดค่าธรรมเนียมหอพักในภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2562 ภาคฤดูร้อน และ ภาคการศึกษาที่ 1 และ 2 และ ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2563 ร้อยละ 10 ส่วนหอพักนอกมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยได้ประสานขอพิจารณาลดค่าเช่าหอพักให้นักศึกษาด้วยเช่นกัน ขณะที่นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ทางมหาวิทยาลัยจะจัดสรรทุนให้เปล่าและทุนทำงานจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาเพิ่มเติม โดยทางมหาวิทยาลัยได้สำรวจและพบว่ามีนักศึกษาประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาทั้งหมด ที่ผู้ปกครองมีรายได้ทั้งปีไม่ถึง 150,000 บาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะได้รับการช่วยเหลือ

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม รายได้จากค่าธรรมเนียมการศึกษาที่หายไป มหาวิทยาลัยจะใช้งบประมาณของมหาวิทยาลัยเข้าทดแทน ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการศึกษาของทุกคณะและทุกหลักสูตร ส่วนการเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ ที่ทางมหาวิทยาลัยยังไม่ประกาศความชัดเจน สร้างความกังวลให้กับนักศึกษาและผู้ปกครอง ที่จะเป็นจะต้องบริหารค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าเช่าหอพัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า จะต้องติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโควิดอย่างใกล้ชิด หากในช่วงต้นเดือนนพฤษภาคม มีแนวโน้มดีขึ้น ก็คาดว่าจะเปิดห้องเรียนได้ภายในเดือนกรกฏาคม และ หากเปิดห้องเรียนก็จะต้องมีมาตรการความปลอดภัย ทั้ง การคัดกรอง เว้นระยะห่าง และ สวมหน้ากากอนามัย เพื่อความปลอดภัยมากที่สุด

ขณะที่ทางด้าน นายสฤษดิ์ สิริธีรธำรง ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษา เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้าร่วมประชุมและรับฟังแถลงข้อมูลแล้ว เบื้องต้น มีความพอใจในระดับหนึ่งและขอขอบคุณผู้บริหาร แต่ยังมีข้อกังวลในบางประการว่าเงิน 4,500 บาท หากคิดเป็นสัดส่วน อาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะกับคณะและหลักสูตรที่มีค่าเทอมสูง บางคณะมีค่าเทอมเกือบ 3 หมื่นบาท หากคิดเป็นเปอร์เซ็นน้อยกว่าคณะอื่น และ เป็นสัดส่วนไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ตามที่เรียกร้องไปก่อนหน้านี้ จึงมองว่าไม่เกิดความเท่าเทียม เครือข่ายนักศึกษาจึงอยากผู้บริหารพิจารณาในประเด็นนี้ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น