เจ้าของร้านหมูกระทะ ได้รับผลกระทบโควิด-19 อุ้มธุรกิจไม่ไหว ประกาศเซ้งร้าน

เจ้าของร้านหมูกระทะชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด อุ้มธุรกิจไม่ไหวประกาศเซ้งร้านราคาถูก ถึงแม้ภาครัฐจะปลดล็อก ให้ลูกค้านั่งกินในร้านได้ เผยปิดมานานกว่า 3 เดือน ไม่มีเงินทุนในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าแรงพนักงานวันละเกือบ 1 หมื่นบาท รวมรายจ่ายทั้งหมดวันละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท ด้านประธานชมรมภัตตาคารและร้านอาหารจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะมีร้านอาหารกว่า ร้อยละ 50 เปิดได้ ที่เหลืออาจจะปิดตัวลงเนื่องจากขาดสภาพคล่อง

เจ้าของร้านอุ้ม ก่ะ ต๋อง กุ้งกระทะบุฟเฟ่ เชียงใหม่ ขึ้นป้ายประกาศเซ้งร้าน พร้อมปิดตัวลงช่วงเดือนมีนาคม หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ลูกค้าลดลงจากเดิมที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจนเต็มพื้นที่ 200 กว่าโต๊ะ ช่วงหลัง ๆ มีลูกค้ามาใช้บริการแต่ละวันเพียง 10 กว่าโต๊ะ ต่อมาจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศ ใช้มาตรการปิดสถานประกอบการ 28 ประเภท ตั้งแต่เย็นวันนี้ 23 มีนาคม เป็นต้นมา ทำให้ร้านต้องปิดตัวลงอย่างถาวร พนักงานในร้านเกือบ 30 คนตกงาน และปิดมานานเกือบ 3 เดือน ล่าสุดภาครัฐได้ปลอดล็อค ร้านอาหาร รวมไปจนถึงร้านหมูกระทะ ให้สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ แต่ต้องวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาสอบถามที่ร้าน อุ้ม ก่ะ ต๋อง กุ้งกระทะบุฟเฟ่ เชียงใหม่ สอบถามถึงกรณีที่ภาครัฐได้ปลอดล็อก โดยนายชรินทร์ ผัดสัก คนดูแลร้านเปิดเผยว่า ทางร้านได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในปี 2560 ช่วงแรกมีลูกค้าใช้บริการเต็มร้านเกือบ 200 โต๊ะ จนล่าสุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาลูกค้าเริ่มลดลงเนื่องจากการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปิดตัวลงตามคำสั่งของจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ภาครัฐจะประกาศปลดล็อคดาวน์ แต่ว่าทางร้านไม่สามารถเปิดกิจการได้ เนื่องจากเจ้าของไม่มีเงินทุนในการบริหาร ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างพนักงานกว่า 20 คน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าวันละ 1 หมื่นบาท ซึ่งรวมรายจ่ายทั้งหมดวันละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทางเจ้าของร้านจึงได้ประกาศเซ้งร้านได้ 2 เดือน ในราคาถูกเพียง 4 ล้านบาท หลังจากลงทุนไปมากกว่า 10 ล้านบาท เบื้องต้นยังไม่มีใครติดต่อสอบถามเลย

ด้านนายชวลิต ฉ่อนเจริญ ประธานชมรมภัตตาคารและร้านอาหารจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าหลังจากภาครัฐได้ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีการผ่อนปรนปลดล็อค เบื้องต้นได้มีการหารือกับสมาชิกเพื่ออนุญาตให้เปิดร้านอาหารก่อน รวมไปถึงร้านตัดผมของจังหวัดเชียงใหม่ จากการสอบถามสมาชิกของชมรมจำนวน 200 กว่าร้าน ซึ่งจากการประเมินไว้อาจจะมีร้านเปิดได้ 50% เต็มรูปแบบ พร้อมให้บริการตามปกติ แต่จะมีโอกาสปิดถาวรอีก 50% เพราะปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ต้องปิดกิจการไป บางร้านอาจชะลอการเปิด เพื่อให้สภาวะปกติแล้วกลับมาเปิดใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น