เชียงใหม่ถูกประกาศกลายเป็นจังหวัดที่มีการติดเชื้อแล้ว ! จากการพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย จาก จ.ภูเก็ต

เชียงใหม่ถูกประกาศกลายเป็นจังหวัดที่มีการติดเชื้อแล้ว จากการพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1 รายจาก จ.ภูเก็ต หลังเข้มมาตรการไม่พบผู้ป่วยถึง 34 วัน เบื้องต้นสอบสวนโรค ไม่มีการติดเชื้อเพิ่มจากคนในครอบครัว

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 พ.ค. 63 ที่ห้องศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และนายแพทย์สุเมธ องค์วรรณดี ผอ.สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังจากที่ช่วงเช้าวันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมา 1 ราย หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่พบการแพร่ระบาดและผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มมาเป็นระยะเวลา 34 วัน ซึ่งเป็นชายอายุ 39 ปี ชาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ส่งผลทำให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ เกิดความวิตกกังวลว่าเชื้อไวรัสจะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ทางด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ก็ได้มีการเรียกประชุมหารือกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางและมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นระลอก 2 ได้ พร้อมทั้งได้มีการชี้แจงให้กับประชาชนชาวเชียงใหม่ได้รับทราบโดยทั่วกันผ่านการไลฟ์สดหลังการประชุมเสร็จสิ้น

โดยทาง นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ล่าสุดนี้ ทราบชื่อคือ นายเลอศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ผู้ป่วยเดินจากจังหวัดภูเก็ตมายังจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยาอายุ 35 ปี และลูกวัย 3 ขวบ โดยทั้งหมดเดินทางเข้ามาในพื้นที่ผ่านการคัดกรองไม่พบว่ามีไข้ และได้มีการกักตัวอยู่ที่บ้านพักของตัวเอง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายเลอศักดิ์ ได้รับการตรวจจาก อสม. และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงได้มีการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ส่วนทางด้านภรรยาและลูกชายขณะนี้ได้เข้าสู่กระบวนการตรวจร่างกายเพื่อหาเชื้อพบว่าผลเป็นบวก และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบยืนยันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะที่ทางด้านเทศบาลตำบลสันกำแพงก็ได้มีการดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ณ บ้านพักของผู้ติดเชื้อแล้ว

ขณะที่ทางด้าน นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมา 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต โดยมาตรการของจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตทุกรายจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นถือเป็นพื้นที่เสี่ยง และหลังจากการตรวจหาเชื้อแล้วก็มีการกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ทุกราย โดยในการตรวจหาเชื้อนั้นจะตรวจทุกคนโดยที่ไม่จำเป็นต้องแสดงอาการ เช่นเดียวกับเคสล่าสุดที่เกิดขึ้นนี้ ก็ได้มีการตรวจหาเชื้อโดยที่ยังไม่มีอาการ และเมื่อมีการตรวจสอบและพบเชื้อก็ได้มีการรับตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ทันที ตลอดทั้งคืนจนถึงขณะนี้ก็ยังพบว่าไม่มีไข้ และอาการผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งในเช้าวันนี้ก็ได้มีการส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ไปสอบสวนโรคตามรายงานที่พักของผู้ป่วย

พร้อมทั้งมีการสอบสวนโรคกับภรรยาและลูกของผู้ป่วย และได้ข้อมูลคือ ผู้ป่วยอายุ 39 ปี เดิมทำงานที่จังหวัดภูเก็ต มีอาชีพเป็นช่างสัก และเดินทางกลับมาภูมิลำเนากับภรรยาและลูก โดยการขับรถส่วนตัวมาพื้นที่เชียงใหม่ โดยระหว่างทางก็ได้มีการแวะซื้ออาหารที่บริเวณข้างทาง รวมทั้งมีการนอนพักค้างคืนที่จังหวัดนครปฐม 1 คืนที่ปั๊มน้ำมัน จนมาถึงเชียงใหม่ก็ได้มีการรายงานตัวกับทางผู้ใหญ่บ้าน และเข้าสู่มาตรการกักตัว และไม่ได้เดินทางไปไหน ส่วนที่จะเดินทางก็คือออกไปซื้ออาหารในละแวกใกล้เคียงเท่านั้น โดยผู้ป่วยเองก็อยู่ในรถและภรรยากับลูกได้ลงไปซื้ออาหาร แต่ละที่ก็จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที และกลับเข้าที่พัก และพบอาการยังเป็นปกติดี จนกระทั่งได้รับแจ้งผลการตรวจสารคัดหลังในลำคอพบเชื้อจึงได้นำตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และในขณะที่ผลตรวจของภรรยากับลูกก็ไม่พบเชื้อ จึงสรุปได้ว่า ครอบครัวนี้เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตและป่วยเพียง 1 คน ส่วนบุคคลใกล้ชิดซึ่งเป็นภรรยากับลูกไม่พบเชื้อ แต่อย่างไรทางภรรยากับลูกของผู้ป่วยก็จะต้องถูกกำหนดให้มีการกักตัวนับจากวันนี้เป็นต้นไปอีก 14 วัน ส่วนตัวผู้ป่วยเองก็จะต้องรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์จนกว่าอาการจะปลอดภัยจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ อย่างไรก็ตามในการสอบสวนโรคผู้ป่วยยืนยันว่าไม่ได้ออกไปไหน เพียงแต่ไปซื้ออาหารประกอบกับการสอบถามผู้ใหญ่บ้านและประชาชนบ้านใกล้เรือนเคียงก็มีข้อมูลที่ตรงกันคือผู้ป่วยอยู่บ้านเป็นหลัก

อย่างไรก็ตามทางด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้มีการยืนยันและขอให้ประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ อย่างเพิ่งวิตกกังวลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ยังคงมาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องต่อไป และหมั่นตรวจตราดูแลอาการของตัวเอง หากพบว่ามีอาการสุ่มเสี่ยงก็ควรไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน และสิ่งที่สำคัญคือให้ระมัดระวังตนเองอย่าเพิ่งประมาท ส่วนในเรื่องที่เราจะมีโอกาสเข้าสู่การผ่อนปรนระยะที่ 2 หรือไม่อย่างไร ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการสอบสวนโรค ซึ่งต้องมีการเข้าแล็ปและยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการอยู่ และขึ้นอยู่กับนโยบายแนวทางของ ศบค. จะพิจารณาอย่างไร เนื่องจากว่าขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ของเราได้เปลี่ยนสถานะจากที่ไม่มีการติดเชื้อ 34 วัน กลายเป็น จังหวัดที่มีการติดเชื้อแล้ว แม้ว่าจะเป็นการติดเชื้อที่นำเข้าจากภายนอกก็ตาม และขอแจ้งว่าทางจังหวัดยังคงมาตรการผ่อนปรนในระยะแรกอยู่เพียงขอความร่วมมือพี่น้องตลอดจนผู้ประกอบการขอให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงทางจังหวัดได้ให้คำแนะนำไปอย่างเคร่งครัด

ร่วมแสดงความคิดเห็น