ปะทะในพม่า ผู้อพยพทะลักเข้าไทย

เกิดการปะทะกันในเขตพื้นที่กองกำลังกะเหรี่ยงติดอาวุธ กลุ่ม เค เอ็น ยู สังกัด พล.น.5 บริเวณตรงข้ามบ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ส่งผลให้มีผู้อพยพหนีเข้าไทย จำนวน 48 คน ล่าสุดหน่วยทหารในพื้นที่ ได้ทำการผลักดันกลับเขตพม่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ในพื้นที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ราษฎรเชื้อสายกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา จากบ้านเลอกะปอ เขตยึดครองของกองกำลังกะเหรี่ยงติดอาวุธกลุ่ม เค เอ็น ยู รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา จำนวน 48 คน ได้อพพยพข้ามฝั่งแม่น้ำสาละวิน เข้ามาในเขตไทย พื้นที่บ้านปู่ทา หมู่ 6 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 14.00 น กองกำลังติดอาวุธกลุ่มกะเหรี่ยง เค เอ็น ยู กองพัน KNDO ที่ 1 ได้ทำการซุ่มโจมตี ทหารพม่าสังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 407 ภายใต้การควบคุมของ กองบัญชาการควบคุมที่ 8 ทำให้ทหารเมียนมา เสียชีวิต จำนวน 1 นาย บริเวณฐานพระธาตุ ตรงข้ามบ้านสบเมย อ.สบเมย  ต่อมาทางการเมียนมา ได้ทำการยิงอาวุธหนัก ( ค. / เครื่องยิงกระสุนวิถีโค้ง ขนาด 60 มม. และ 81 ) โจมตีกลุ่มกะเหรี่ยง เค เอ็น ยู กลุ่มดังกล่าว

จากการยิงอาวุธหนักของทหารเมียนมา ส่งผลให้ราษฎรชาวกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นแนวร่วมของกลุ่ม เค เอ็น ยู ได้พากันหลบหนีภัยสงคราม เข้ามาในเขตไทย ที่บ้านปู่ทา หมู่ 6 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ฯ จำนวน 48 คน ประกอบด้วย ชาย 24 คน เป็นเด็กชาย 12 คน หญิง 24 คน เป็นเด็กหญิง 7 คน ซึ่งมาจาก 10 ครอบครัวในหมู่บ้านเลอกะปอ เขตรัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ต่อมาทางฝ่ายปกครอง อ.สบเมย ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบ และคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) พร้อมทั้งได้ควบคุมผู้อพยพให้อยู่จำกัดพื้นที่ หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติจะได้ผลักดันกลับไปยัง เขตสหภาพเมียนมา รัฐกะเหรี่ยง ต่อไป

ล่าสุดในวันที่ 20 พ.ค.2563 ( วันนี้ ) ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ได้สนธิกำลังเข้าไปทำการเจรจาและผลักดันให้ผู้อพยพทั้งหมด เดินทางกลับไปยังฝั่งเมียนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ได้ยุติลงตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา