ป.ป.ส. ระบุ ผู้กระทำผิด ฐาน “เสพยาเสพติด” ต้องส่งตัวไปฟื้นฟูก่อน ยืนยันหลักการ “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัดรักษา”

วันที่ 22 พ.ค. 2563 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เปิดเผยจากกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือซักซ้อมแนวทางการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเฉพาะความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนเพียงฐานความผิดเดียว ซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5377/2562 วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดีผู้ต้องหากับมาตรการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ตามมาตรา 19 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ว่า เมื่อพนักงานอัยการโจทก์มีคำสั่งไม่ฟ้องจำเลยในความผิดฐานอื่น และสั่งฟ้องจำเลยเฉพาะความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีน ย่อมมีผลเท่ากับว่าจำเลยต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนเพียงฐานเดียว พนักงานอัยการจึงต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเพื่อให้จำเลยได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเสียก่อน

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “หลักการ “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ต้องได้รับการบำบัดรักษา” นั้น ได้รับการยืนยันชัดเจนอีกครั้งตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้ โดยผู้ป่วยจากการเสพเมทแอมเฟตามีน จะถูกส่งเข้ารับการบำบัด และไม่ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้เข้าใจด้วยว่า ต้องเป็นการกระทำความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนเพียงฐานเดียว หากกระทำความผิดและถูกแจ้งข้อหาอื่น ๆ เช่น ขาย หรือ ผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะเสพเมทแอมเฟตามีน จะไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่จะดำเนินการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยจากการเสพยาเสพติด ที่เข้ารับการบำบัด จะได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์และพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ โดยเมื่อผ่านกระบวนการบำบัด รัฐจะให้การติดตามช่วยเหลือส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อให้ผู้เสพได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่สำคัญ คือ ไม่มีประวัติอาชญากรรมติดตัว

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า แนวคิด “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” คือการให้โอกาสผู้ที่เคยผิดพลาดได้มีโอกาสในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยใครก็สามารทำผิดพลาดในชีวิตได้ ผู้เสพยาเสพติดก็เช่นกันซึ่งทัศนคติและมุมมองเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้แนวคิด ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ จำเป็นที่บุคคลในครอบครัวและชุมชนต้องช่วยกันป้องกันและเฝ้าระวัง จึงขอเชิญชวนให้ผู้ใกล้ชิดกับผู้เสพ หรือผู้ใช้ยาเสพติดครอบครัวหรือชุมชน ขอให้ทำความเข้าใจ และแนะนำให้ผู้เสพ เข้ารับการบำบัดรักษา ซึ่งสามารถรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่มีประวัติอาชญากรรม และไม่มีความผิด สามารถโทรปรึกษาการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่สายด่วน 1165 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ส. โทร. 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมแสดงความคิดเห็น