วว. เปิดตัว 3  ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า จากสารสกัดอะโวคาโด

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์นวัตอัตลักษณ์เครื่องสำอางไทยจากสารสกัดอะโวคาโด  “Serum, Eye cream ,Facial Mask” มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอย ต้านการเกิดเม็ดสีผิว โดยใช้วัตถุดิบจากอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระบุเป็นผลสำเร็จโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมไทย ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าเครื่องสำอางตามเอกลักษณ์ท้องถิ่นไทย (Thai Cosmetopoeia) จากการร่วมดำเนินงานกับบริษัท เอสแอนด์เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นเตอร์ไพรส์  จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนาผลิตบำรุงผิวหน้าจากสารสกัดอะโวกาโด ภายใต้ชื่อทางการค้า Mistine
นายสายันต์  ตันพานิช  รองผู้ว่าการกลุ่มวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. กล่าวว่า วว. ได้ดำเนินโครงการ “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมไทย ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าเครื่องสำอาง ตามเอกลักษณ์ท้องถิ่นไทย” หรือ  Thai Cosmetopoeia  ร่วมกับบริษัท เอสแอนด์เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ในการสกัดสารสำคัญ วิเคราะห์ทดสอบประสิทธิภาพความปลอดภัย และพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ประสบผลสำเร็จในการพัฒนา 3 ผลิตภัณฑ์นวัตอัตลักษณ์เครื่องสำอางจากสารสกัดอะโวคาโด  และมีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แล้วภายใต้เครื่องหมายการค้า Mistine ของบริษัท เบทเตอร์เวย์ จำกัด (ประเทศไทย) ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
“วว. และ บริษัท เอสแอนด์เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นเตอร์ไพรส์  จำกัด (มหาชน) นำวัตถุดิบผลอะโวคาโด จากอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ มาผ่านการสกัดด้วยเทคโนโลยีเฉพาะและทดสอบประสิทธิภาพต่อผิวหนัง ในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอย และต้านการเกิดเม็ดสีผิว พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ 3 ชนิด คือ 1. Serum บำรุงผิว 2. Eye cream บำรุงรอบดวงตา และ 3. Facial Mask มาสก์บำรุงผิวหน้า นับเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตรและเป็นการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ช่วยลดการนำเข้าที่เป็นรูปธรรม โดยผลิตภัณฑ์นี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ได้รับตราสัญลักษณ์  “Thai Cosmetopoeia” ของ วว. ซึ่งเป็นการยืนยันถึงการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย จากศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร ของ วว. งานวิจัยและพัฒนาจากความเชี่ยวชาญของ วว. รวมทั้งศักยภาพของภาคีเครือข่ายที่ร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันสร้างการรับรู้แบรนด์ไทยในตลาดโลกให้ได้มากขึ้น” รองผู้ว่าการ วว. กล่าว
อนึ่ง วว. ได้เปิดตัวโครงการ “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมไทย ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าเครื่องสำอางตามเอกลักษณ์ท้องถิ่นไทย (Thai Cosmetopoeia) ” ซึ่งเป็นโครงการตามยุทธศาสตร์การดำเนินงานของ วว. ในการวิจัยและพัฒนาด้านเครื่องสำอาง เมื่อปลายปี พ.ศ. 2562 โดยมีเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน ของจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์โครงการ เพื่อส่งเสริมทรัพยากรชีวภาพของแต่ละท้องถิ่นที่มีความเป็นอัตลักษณ์ หรือ เอกลักษณ์ที่โดดเด่น นำมาพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ “นวัตอัตลักษณ์เครื่องสำอางไทย”  ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบท้องถิ่นให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ (creation values) เพื่อให้เป็นที่รู้จักในระดับชาติและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดความยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมนโยบาย BCG ให้เกิดการขยายตัวอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน

ร่วมแสดงความคิดเห็น