สีสันห้างดัง แหล่งค้าในเชียงใหม่ ปรับตัวรับช่วงโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศห้างสรรพสินค้าดัง ในเชียงใหม่ หลังคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด มีคำสั่งผ่อนปรนให้กลับมาเปิดบริการได้ภายใต้เงื่อนไข ข้อกำหนดทางด้านสาธารณสุขที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ปรากฎว่า ในช่วงเที่ยง ๆ วันนี้  (27 พฤษภาคม 2563)  ภายในห้างดังย่านแยกศาลเด็ก พบว่า มีประชาชนเข้ามาจับจ่าย ใช้บริการบางตา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำห้าง กล่าวว่า ทางเข้าออกหลัก จะมีการกำหนดให้ลงชื่อและเบอร์โทรติดต่อ หากไม่สะดวกที่จะใช้สมาร์ทโฟน สแกนคิวอาร์โค้ด เว็บไซต์ ไทยชนะ เพื่อเช็คอินการเข้าห้าง จากนั้นบริเวณประตูจะมีเทอร์โมมิเตอร์ ตรวจวัดอุณหภูมิ ถ้าไม่เกิน 36.5 ก็จะให้เข้าไป และเมื่อจะออกก็ทำแบบเดิม

“กรณีผู้ใช้บริการ มีอุณหภูมิสูงเกินกำหนด อาจจะเนื่องมาจากอากาศร้อน จะให้นั่งพักในที่จัดเตรียมไว้ หากเกินกว่าที่กำหนดไว้ 2-3 ครั้ง จะแนะนำหรือประสานเจ้าหน้าที่ อสม., สาธารณสุข มาพบ พูดคุย ซักประวัติ เพราะบางรายอาจเป็นไข้  ตัวร้อนก็ได้”

อย่างไรก็ตาม ภายในห้างดัง ๆ ช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะมีประชาชนคับคั่งมากกว่า วันปกติทั่ว ๆ ไป และร้านค้า ชอปบริการต่าง ๆ รวมถึง สำนักงานสาขา ธนาคาร ส่วนใหญ่จะงดบริการ ยกเว้นตู้เอทีเอ็ม. ยังคงมีบริการตามปกติ

พนักงานตามร้าน ในฟู้ดเซ็นเตอร์ กล่าวว่า ช่วงเที่ยง ๆ จะมีไรเดอร์ มารับอาหาร บริการส่งด่วน มากกว่ามานั่งรับประทานกันภายในจุดที่จัดไว้ ตามเงื่อนไข การเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากนั้น ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านมือถือ ร้านทอง ร้านเบเกอรี่ ยังคงเปิดบริการ โดยมีเจ้าหน้าที่ พนักงานของห้างฯ คอยแนะนำ ประชาชน ผู้มาใช้บริการ ให้ไปตามเส้นทางที่กำหนดใหม่ เพราะบางโซนอาจมีการปิดชั่วคราวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทางออกไปยังลานจอดรถ โดยแนะนำให้ไปตามทางหลักที่ต้องตรวจสอบ คนเข้า คนออก

ด้านเจ้าของร้านเบเกอรี่ดัง ในห้างสรรพสินค้า ย่านแยกศาลเด็ก กล่าวว่า ยอดขายลดไปกว่าครึ่ง แต่ก็ดีกว่าไม่มีรายได้เข้ามา ยังมีสีสัน ความเคลื่อนไหวคนเดินห้าง ในช่วงวันหยุดที่คึกคัก ขายดีกว่าวันปกติทั่ว ๆ ไป ลูกค้าที่ซื้อจะเป็นลูกค้าประจำเป็นส่วนใหญ่ คาดว่า อีกระยะ ทุก ๆ อย่างคงเข้าที่เข้าทาง ภาวะแบบนี้ต้องปรับตัว
ทางด้านย่านกาดหลวง นครเชียงใหม่ บรรยากาศช่วงปลาย ๆ เดือนพบว่า ยังมีผู้คนบางตา โดยผู้ค้าส่วนใหญ่ต่างโอดครวญว่า ถ้าขืนมีสภาพแบบนี้อีก 2-3 เดือน คงอยู่ไม่ไหว รายได้ไม่คุ้มทุน

ร่วมแสดงความคิดเห็น