ตามที่ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ได้ร่วมกับจังหวัดลำปาง โดยศูนย์อำนวยการจิตอาสาจังหวัดลำปาง และโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านแม่ต๋ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ จัดทำกิจกรรมโครงการ “ฟาร์มตัวอย่าง…ต้านภัย COVID-19” และโครงการ “สืบสานตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เพื่อช่วยเหลือส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการจ้างงานแก่ชุมชน ให้ชาวบ้านในชุมชนพื้นที่บ้านแม่ต๋ำ ได้มีงานทำและมีรายได้ ในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อ “COVID-19” แพร่ระบาด โดยได้ทำการเปิดรับสมัครบุคคลผู้ที่มีความเหมาะสม จำนวน 50 ราย เข้าเป็นจิตอาสาฝึกอบรมพัฒนาอาชีพในพื้นที่โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ร่วมเรียนรู้ในเรื่องวิถีการทำสวนเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ซึ่งในการฝึกอบรมดังกล่าว ทางศูนย์อำนวยการจิตอาสาจังหวัดลำปาง และโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านแม่ต๋ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้มีการนำจิตอาสาฝึกพัฒนาอาชีพทั้ง 50 ราย เข้าทำการเรียนรู้ในภาคทฤษฎีเกี่ยวกับแนวทางวิถีการทำการเกษตร ตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่เน้นหลักการของการพึ่งพาตนเอง รู้จักจัดสรรและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า ทำการผลิตให้พออยู่พอกินสร้างความมั่นคง ให้เกิดความยั่งยืนเพื่อเป็นรากฐานสำคัญของระบบสังคม พร้อมกับเปิดพื้นที่ฟาร์มตัวอย่างบ้านแม่ต๋ำ ตำบลเสริมซ้าย อำเภอเสริมงาม นำจิตอาสาฝึกพัฒนาอาชีพทั้งหมด ร่วมบุกเบิกพื้นที่ประมาณกว่า 12 ไร่ ฝึกปฏิบัติตามหลักทฤษฎีทำสวนเกษตรผสมผสาน “โคกหนองนาโมเดล” เพื่อศึกษา สืบสาน รักษา และต่อยอด ตามรอยศาสตร์พระราชา โดยนับแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา ผู้เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ ก็ได้มีการเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับลงมือปฏิบัติกันอย่างจริงจัง ปัจจุบันโครงการฯ ได้มีการดำเนินงานคืบหน้าไปกว่า ร้อยละ 50
โดยจากการติดตามพบว่า หลังจากที่ได้ย่างเข้าสู่ฤดูฝน ขณะนี้ในพื้นที่สวนเกษตรผสมผสาน “โคกหนองนาโมเดล” ของจังหวัดลำปาง สามารถที่จะกักเก็บน้ำไว้ได้ในปริมาณมากพอสมควร และตามแปลงเกษตรก็ได้เริ่มมีการเพาะปลูกพืชผักต่างๆ มากขึ้น ทั้งพืชไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้เศรษฐกิจ และพืชผักสวนครัว รวมถึงเริ่มทำการจัดสร้างโรงเรือนเพื่อใช้ประโยชน์ เช่น กระท่อมที่พัก เรือนเพาะชำ และโรงเลี้ยงหมูหลุม เป็นต้น ซึ่งล่าสุดทางโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ได้มีการนำจิตอาสาฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ ร่วมเรียนรู้ถึงวิธีการปรับสภาพดินด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ การหว่านเมล็ดปอเทืองในผืนแปลงที่นา เพื่อเตรียมการทำปุ๋ยพืชสด การใช้ฟางข้าวแผ่ปกคลุมผืนที่ดินที่ใช้ในการปลูกพืช ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้ให้ข้อมูลว่า วิธีการดังกล่าวเพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผืนดิน และยังเป็นการปรับสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยการสร้างอินทรียวัตถุจากการเน่าเปื่อยผุพัง หรือ การสลายตัวของเศษซากพืชซากสัตว์ โดยวิธีการนี้เรียกว่า “การเลี้ยงดิน เพื่อให้ดินเลี้ยงพืช”
และจากการสอบถามตัวแทนชาวบ้าน ที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพในโครงการดังกล่าวฯ มาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือน พบว่าหลายๆ คน เริ่มที่จะมีความสุขกับการดำรงชีวิต ตามแนวหลักวิถีเศรษฐกิจพอเพียง และจากการที่ได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ได้ช่วยให้หลายคนมีความเข้าใจในเรื่องต่างๆ มากขึ้น มองเห็นถึงลำดับขั้นตอน แนวทางวิธีการปฏิบัติ ที่จะทำให้การทำสวนเกษตรตามหลักทฤษฎีใหม่เป็นเรื่องง่าย โดยความรู้ที่ได้รับนี้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต่างมีความตั้งใจ ที่จะนำไปปรับใช้ในพื้นที่ทำการเกษตรที่มีอยู่ เพื่อจะได้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น