(มีคลิป) ร้องขอความเป็นธรรม ! หลังถูกยึดบ้านโดนขายทอดตลาด กรณีเหลือหนี้ กยศ. แค่หมื่นกว่าบาท ที่ จ.แพร่

ความคืบหน้าเป็นหนี้ กยศ. แค่หมื่นกว่า แต่ถูกยึดบ้านขายทอดตลาด สองล้านกว่า ที่ จ.แพร่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 มิถุนายน 2563 น.ส.กรทิพย์ วงศ์ตะวัน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 192 ม.3 ต.สบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ได้พา น.ส.สมหมาย วงศ์ตะวัน อายุ 38 ปี ผู้กู้ กยศ.  นายสมพร วงศ์ตะวัน อายุ 75 ปี (พ่อ) และนางพริ้ง วงศ์ตะวัน อายุ 65 ปี  (แม่) ได้เดินทางขอความเป็นธรรม เกี่ยวการขายทอดตลาดทรัพย์เป็นบ้านทรงไทยหลังงาม ของผู้เป็นพ่อ ในราคา 2 ล้านกว่า ซึ่งมีผู้มาซื้อไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 จากการบังคับคดีของ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ทั้งที่นายสมพร วงศ์ตะวัน ยังจำนองกับธนาคาร อีก 1.4 ล้านบาท และ น.ส.สมหมาย วงศ์ตะวัน ผู้กู้เงิน กยศ. ยังมีทรัพย์ เป็นบ้าน นางพริ้ง วงศ์ตะวัน ผู้ค้ำ จำเลยที่ 2 มีบ้าน และไม่ติดจำนองกับธนาคารใด และ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่กลับเลือก ยึดบ้านนายสมพร วงศ์ตะวัน จำเลยที่ 3 แทน ทำให้ครอบครัวนี้ได้เดินทางทางมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่

อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ : คนแพร่โวย น้องเป็นหนี้ กยศ. แค่หมื่นกว่าบาท แต่ถูกฟ้องยึดบ้านขายทอดตลาด ทั้งที่เป็นบุคคลที่ 3

หลังจากที่ น.ส.กรทิพย์ฯ พาน้องน้องสาว น.ส.สมหมาย และนายสมพร  นางพริ้ง มาถึง ศูนย์ดำรงธรรม ได้ยืนร้องกับ น.ส.นภาพร เยาวรัตน์ ผอ.กลุ่มงานสูนย์ดำรงธรรม จ.แพร่ ชั้น 2 ศาลากลาง จ.แพร่ และได้มี นางจิรพร เพิ่มพูล ผอ.สำนักงานยุติธรรม จังหวัดแพร่ พร้อมด้วย น.ส.กฤษณา กล้าพนัส ผอ.สำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ได้มาพบกับครอบครัว น.ส.พรทิพย์ และได้ขอพูดคุยกับ ครอบครัวผู้เดือดร้อน โดย ผอ.สำนักงานยุติธรรม และ ผอ.สำนักงานบังคับคดี จ.แพร่ ได้แจ้งผู้สื่อข่าวให้ออกจากห้อง และบอกว่าไม่ขอให้สัมภาษณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

การประชุมหารือระหว่างสำนักงานยุติธรรม จ.แพร่ และสำนักงานบังคับคดี จ.แพร่ และศูนย์ดำรงธรรม ได้ข้อยุติ โดย น.ส.กรทิพย์ พาครอบครัวทั้งน้องสาว พ่อ แม่ เดินทางไปยังสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์ และช่วยเหลือทางกฏหมาย และการบังคับคดี จังหวัดแพร่ เพื่อขอความช่วยเหลือ ใช้เวลาในการปรึกษาและขอความเป็นธรรมนานกว่า 2 ชั่วโมง น.ส.กรทิพย์ พร้อมด้วยครอบครัว เดินคอตกออกมาจากห้อง อย่างสิ้นหวัง

โดย น.ส.กรทิพย์ เผยกับ ผู้สื่อข่าวว่า ได้รับความเห็นใจจาก อัยการ และท่านรับปากว่าจะติดตามคนที่ซื้อบ้านมาเจรจาแต่เขาจะมาหรือไม่มานั้น ไม่แน่ใจ แต่โอกาสที่จะมานั้นน้อยมาก โดยนัดกันวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ถ้าหากเขามาก็จะให้ทางครอบครัวตนจ่ายค่าชดเชยที่เขาซื้อบ้าน ถ้าเขาไม่มาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร และทางตนได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อจะไปยื่นให้สภาทนายความ จังหวัดแพร่ ได้ช่วยเหลือไปขอยื่นกับศาลขอรื้อฟื้นคดี พร้อมกันนี้ตนจะเดินทางไปพบกับ ทนายสมศักดิ์ สถานีประชาชนที่กรุงเทพ และยังขอติดดูว่าจะไปขอเป็นธรรมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หรือไม่ ขอเวลาปรึกษากันก่อน

ร่วมแสดงความคิดเห็น