“มหาเจดีย์เนปาล” จำลองมาไว้ ที่เชียงใหม่

มหาเจดีย์จำลององค์นี้ มีชื่อว่า “พระมหาธาตุเจดีย์ไตรรัตนพุทธญาณรังสีปฐวีมงคล” หรือเจดีย์ดวงตาแห่งปัญญา เป็นศิลปะกึ่งเนปาล โดยจำลองมาจาก “มหาเจดีย์พุทธนาถ” ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สำคัญ ใหญ่ที่สุดใน ที่กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล สถานที่ในการแสวงบุญและทำสมาธิ สำหรับชาวพุทธทิเบตและชาวเนปาล อีกทั้ง “มหาเจดีย์พุทธนาถ” ในประเทศเนปาล องค์การยูเนสโกยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย

ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนไทย ไม่ต้องไปไกลถึงประเทศเนปาล ที่จะได้มาสักการะ สัมผัสพลังของความศรัทธา ในบรรยากาศของชาวทิเบต ที่ อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน หมู่ 6 บ้านใหม่แม่เตี๊ยะ ต.ดอนแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

บรรยากาศและสถานที่ของ “อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน” นั้น ตั้งอยู่เนินเขา ไม่สูงมากนัก เมื่อเดินทางไปถึงอาศรม จะมีลานครูบาศรีวิชัย จากนั้นจะพบทางเดินเข้าเป็นบันไดนาค เพื่อขึ้นไปหาองค์พระมหาธาตุเจดีย์ ขวามือก็จะมีพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ เป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งรำรวย และองค์เทพ ที่จำลองจากประเทศจีนอีกจำนวนมากให้สักการะ เมื่อเดินไปตามเส้นทางเข้าอาศรม จะพบเจ้าพ่อเสื้อวัด (ปู่ขาว) มีดงฤาษี และเทพเจ้าจากประเทศต่าง ๆ เช่น เนปาล อินเดีย จีน เมียนมา และไทย ให้สักการะ

จุดสำคัญที่สักการะ พระมหาธาตุเจดีย์ไตรรัตนพุทธญาณรังสีปฐวีมงคล จะอยู่ด้านหน้าองค์มหาเจดีย์ มีรูปปั้นองค์มหาเทพตามความเชื่อฮินดู ซึ่ง พระมหาเจดีย์ ไตรรัตนพุทธญาณรังสีปฐวีมงคล พระพุทธสัตตนาราชาจันทราประภาตถาคต ประดิษฐานอยู่ใจกลางองค์พระมหาธาตุ มีข้อห้ามสุภาพสตรี รวมถึงเพศที่สามขึ้นบนพระมหาธาตุเจดีย์ เพราะด้านใต้ฐานพระมหาธาตุเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ ยังเป็นที่บรรจุและเก็บรักษาพระธาตุอัฐบริขารของพระเกจิอาจารย์ นักบวช นักบุญ จากทุกศาสนาทั่วทุกมุมโลก ซึ่งดำรงไว้ด้วยพลังงานศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพกราบไหว้บูชา เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทย และชาวต่างชาติทุกมุมโลก ตามจารีตประเพณีล้านนาได้ยึดถือกันมาว่า สุภาพสตรีและเพศที่สามห้ามเข้าโบสถ์ เพราะเป็นสถานที่ทำสังฆกรรมเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ จึงได้ยึดถือประเพณีอันงดงามสืบทอดต่อกันมานานหลาย 100 ปี

สำหรับความยิ่งใหญ่ของพระมหาธาตุเจดีย์ตาปัญญา นี้ มีความสูง 19 เมตร กว้าง 55 เมตร พระมหาฐาตุเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์พระองค์นี้ สร้างขึ้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจของศรัทธาประชาชนทั่วทุกสารทิศ พร้อมทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ศิษยานุศิษย์ผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา และท่านพระครูบาตรัยเทพ จันทวัณโณ ได้ร่วมใจสามัคคีพร้อมเพรียงกัน บริจาคทรัพย์และทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจสร้างองค์พระมหาเจดีย์ศิลปะกึ่งเนปาลพระองค์นี้ขึ้น เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้ยืนยงอยู่คู่สากลโลก ตราบนานเท่านาน

พระมหาธาตุเจดีย์ ได้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระธาตุส่วนสำคัญต่างๆ แล้วยังได้บรรจุอัฐิและเกศาของพระสุปฏิบันโน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามคำสั่งสอนของสมเด็จพระพิชิตมารสมภารเจ้า ที่ประชาชนทั่วไปให้ความเคารพสักการะ ในยุคสมัยปัจจุบัน อาทิ ครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริสิชโย ครูบาอภิชัยขาวปี หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภริทัตโต และพระเถรราจารย์ผู้เป็นที่พึ่งที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั่วประเทศกว่า 100 รูป

องค์พระเจดีย์ด้านบนยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก พระนามว่า “พระพุทธสัตตะนาคะราชาจันทราประภาตถาคต” เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ พระราชาอันยิ่งใหญ่เป็นจอมไตรโลกนาถ นั่งบัลลังก์ดอกบัวบนพญานาค 7 ตน 7 เศียร เป็นที่อภิวาทวันทานอบน้อมของเหล่ามนุษย์และเทวดา พระอินทร์ พระพรหม ทั้งหลายทั้งอนันตจักรวาล หน้าตัก 59 นิ้ว สูงจากฐานล่างถึงชั้นบนยอดเศียรพญานาค ประมาณ 5 เมตร

พญานาคทั้ง 7 ตน ที่นำมาจำลองสร้างปรกพระประธานองค์นี้ เป็นพญานาคที่ทำหน้าที่รักษาภูเขาหิมาลัย และยังเป็นหัวหน้าเหล่าพญานาคทั้งมวลในไตรภพ ซึ่งอาศัยอยู่ในสระอโนดาต เป็นผู้ดูแลควบคุมบรรดานาคและงูทุกหมู่เหล่าทั้ง 7 ตระกูล

ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงใหญ่ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อีกทั้ง ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาลทั้ง 28 พระองค์

ในอาศรมยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และพระองค์เล็กหน้าตักต่าง ๆ พร้อมพระพิมพ์ พระผง กว่า 84,000 องค์ เหรียญเงิน เหรียญทอง แก้ว แหวน อัญมณี หินสี ของมีค่า พร้อมทั้งเหรียญคณาจารย์ต่าง ๆ อีกจำนวนมาก ยังได้บรรจุธารพระกร (ไม้เท้า) ผ้าจีวร ที่กรองน้ำและรูปปั้นพุทธประวัติของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกทั้ง มงคลสัตตะทั้ง 7 หลัง จากกรพระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตรสัมโพธิญาณแล้ว ได้จำลองบรรจุไว้ในองค์พระมหาเจดีย์นี้ครบถ้วน

นับว่าพระมหาเจดีย์องค์นี้เป็นถาวรวัตถุอันทรงคุณค่า ควรคู่แก่แผ่นดินสยามประเทศและโลกมนุษย์ ควรที่ประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ทุกเชื้อชาติและทุกชนชั้นจะได้ร่วมอนุรักษ์ หวงแหนและสักการะบูชาให้เป็นที่เชิดชูตาของ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

อาศรมพรหมธาดาแห่งนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานสรีระสังขารของ “หลวงปู่จันทา อนากุโล” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเกษมสุข อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมรณภาพตั้งแต่เดือน ต.ค.2553 ในท่านั่ง และร่างยังไม่เน่าเปื่อย ลูกศิษย์ของหลวงปู่ได้นำสรีระสังขารของท่านมาไว้ที่นี่ ตามเจตนารมณ์ของหลวงปู่เคยบอกไว้ ตั้งแต่ก่อนที่จะละสังขาร

อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถานเปิดกว้างให้ทุกเชื้อชาติ ทุกชนชั้นและทุกศาสนา เข้ามาศึกษาเพื่อปฏิบัติธรรม การเดินทาง เริ่มต้นเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับรถไปตามถนน สายเชียงใหม่-ฮอด ประมาณ 66 กิโลเมตร ผ่านวัดพระบรมธาตุศรีจอมทอง ขับตรงไปจนถึง สภ.จอมทอง จะเห็นสี่แยกไฟแดง ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยข้างที่ว่าการ อ.จอมทอง ไปตามป้ายสถานปฏิบัติธรรมนิโรธรรม ไปตามถนนสายหลักในหมู่บ้าน จากนั้นจะเห็นพระเจดีย์ตาปัญญา ตั้งตระหง่านอยู่บนสันเขา ที่ชาวบ้านเรียกเจดีย์ตาปัญญา เพราะยอดเจดีย์สี่เหลี่ยมมีรูปดวงตาอยู่ 4 ด้าน เมื่อมองไกล ๆ จะเห็นดวงตาที่ยอดเจดีย์ชัดเจน

หากมีโอกาสเดินทางไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “พระมหาธาตุเจดีย์ไตรรัตนพุทธญาณรังสีปฐวีมงคล”

ร่วมแสดงความคิดเห็น