ไทย-เมียนมาหารือปัญหาลักลอบข้ามพรมแดน หวั่นโควิดระบาดซ้ำ หลังจับกุมได้แล้วประมาณ 80 คน

วันที่ 8 ก.ค. 63 ที่หอประชุมพระเจ้าพรหมมหาราช 750 ปี ที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงราย สภ.แม่สาย สภ.เกาะช้าง กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ชายแดนประมาณ 100 คน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการลักลอบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งได้มีการนำส่งด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันตามขั้นตอน และได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ลาดตระเวณเป็น 22 ชุดปฏิบัติการ และจัดวางอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ไฟส่องสว่าง 17 จุด เพิ่มความถี่ในการลาดตะเวณ เฝ้าตามช่องทางต่างๆ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด กั้นรั้วลวดหนาม ฯลฯ เนื่องจากประเทศไทยยังคงมีการปิดพรมแดนตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19

พ.อ.ชาตรี กล่าวว่าปัผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้นมีทั้งผู้ที่เข้ามาเองและถูกหลอกจากกลุ่มขบวนการ โดยตั้งแต่เดือน มี.ค.-ก.ค.ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดจำนวน 39 ครั้ง มีผู้ที่ถูกจับกุมประมาณ 80 คนเจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มมาตรการต่างๆ เพราะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ และหากมีผู้ติดเชื้อเล็ดลอดเข้ามาได้ก็จะไม่ได้กระทบเฉพาะ จ.เชียงราย แต่หมายถึงภายในประเทศไทยเราด้วย ซึ่งยอดการจับกุมคนที่พยายามลักลอบเข้ามาดังกล่าวถือว่ามากและบางครั้งก็พบว่ากลุ่มเดียวที่เข้ามามีถึง 14 คน จึงอาจะเป็นไปได้ว่ามีบางหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องติดตามเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประชุมหารือนอกรอบทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของ จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อหามาตรการป้องกันการลักลอบข้ามฝั่งไปมาเนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้มีเฉพาะชาวเมียนมาที่ลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยเท่านั้น แต่บางครั้งมีคนไทยที่ตกค้างอยู่ลักลอบข้ามมาและมีชาวเมียนมาที่อยากจะกลับภูมิลำเนาได้ลักลอบจะข้ามฝั่งไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบมีกลุ่มคนที่พยายามให้การช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ด้วย ในเรื่องการเข้าเรียนของนักเรียนชาวเมียนมาซึ่งจะต้องมีมาตรการรองรับในอนาคตกรณีมีการเปิดด่านพรมแดนในอนาคตซึ่งเบื้องต้นจะให้มีการทำประกันชีวิตก่อนจะข้ามมาเรียนด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น