รื้อแล้วม่อนแจ่ม ป่าไม้งัด ม.25 ทุบทิ้งรีสอร์ท ที่พัก 29 แห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) นำโดย นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) พร้อมหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพรภาคเหนือ) ชุดปฏิบัติการพิเศษ
ป่าไม้เชียงใหม่ หน่วยป้องกันกันและพัฒนาป่าไม้เชียงใหม่ และลำพูน ภายใต้การอำนวยการจากนายอำเภอแม่ริม ได้ทำการรื้อถอนบ้านพัก รีสอร์ท ตามมาตรา 25 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่ริม) (ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง) ต.แม่แรม และ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้เป้าหมายรีสอร์ท ที่พักในพื้นที่ม่อนแจ่ม ที่เจ้าของยินยอมให้ทำการรื้อถอน ทุบทิ้งแต่โดยดี เพื่อรอฟื้นฟูสภาพป่าดังเดิมที่มีทั้งหมด 29 แห่ง และในวันที่ 12 ก.ค. นี้ คณะของผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นตัวแทนของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีฯ จะมาติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจัดระเบียบม่อนแจ่ม และทำความเข้าใจแนวทางการใช้ที่ดินที่ถูกต้อง ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 30 มิ.ย. 2541

ด้านคณะทำงานจัดระเบียบม่อนแจ่ม เชียงใหม่ กล่าวว่า จำนวนเป้าหมายเบื้องต้นทั้งหมด 29 ราย ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี เพราะมีการปลูกสร้าง อาคาร รีสอร์ท ที่พัก รุกล้ำเพิ่มเติมในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เกินความจำเป็น ผิดเงื่อนไขการใช้ที่ดิน มีการบุกรุกใหม่ มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ และพบพฤติกรรมการถือครองแบบตัวแทนหรือนอมินี จึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดำเนินการ 

“หากรายไหนไม่ยินยอม ทางราชการจะเข้าไปรื้อถอน และเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป เพราะถือว่าได้ชี้แจง กฎกติกา ที่ถูกต้อง ทำความเข้าใจ วัตถุประสงค์การใช้ที่ดิน แต่เบื้องต้นให้ชาวบ้านรับทราบ เปิดโอกาสให้รื้อถอนมาแล้ว แต่ยัง
ดื้อแพ่ง”

ในส่วนชาวบ้านที่เหลือกว่า 80 รายนั้น ทางป่าไม้ระบุว่า จากการตรวจสอบยังพบเป็นผู้ครอบครองเดิม บางรายที่ปลูกสร้าง อาคาร ที่พัก รีสอร์ท ไม่เป็นไปตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง พ.ร.บ.โรง
แรม, พ.ร.บ.อาคาร และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

“สำหรับผู้ประกอบการที่พักรีสอร์ท ที่ยังมีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมนั้น ได้ติดตามความเคลื่อนไหว และแจ้งเตือน กลุ่มที่กระทำความผิด ก็จะมีการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันข้อโต้แย้ง และทำความเข้าใจ วัตถุประสงค์ในการดำเนินการให้ชาวบ้านเข้าใจ ซึ่งทุกพื้นที่ป่า ถ้าฝ่าฝืนกระทำความผิด มีกรอบ แนวทางระบุชัดว่าต้องปฏิบัติอย่างไร ทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย”

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่)

ร่วมแสดงความคิดเห็น