วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วน และการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับพี่น้องประชาชนของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแนวทาง “ยุติธรรม สร้างสุข” ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ด้วยการรับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดผ่านสายด่วน 1386 โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงปัจจุบัน (1 ตุลาคม 2562 – 30 มิถุนายน 2563) พบว่าในช่วง 9 เดือนมีประชาชนได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดเข้ามารวม 13,269 เรื่อง หรือได้รับข้อมูลจากประชาชนเฉลี่ยวันละ 50 เรื่อง
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่าเบาะแสที่ประชาชนแจ้งมามีหลายลักษณะ เช่น ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนมีชื่อและนามสกุล สถานที่ ชัดเจน มีเพียงชื่อหรือชื่อเล่นเท่านั้น มีเพียงสถานที่ มีเพียงบริเวณกว้าง ๆ หรือมีเพียงลักษณะความเดือดร้อนที่ได้รับเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เบาะแสทุกเรื่อง สำนักงาน ป.ป.ส. จะนำมาตรวจสอบก่อนดำเนินการและเก็บในฐานข้อมูล ซึ่งจำแนกข้อมูลออกเป็น 5 กลุ่มคือ 1) กลุ่มที่มีตัวตนจริง มีพฤติการณ์และมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2,678 เรื่อง 2) กลุ่มที่มีตัวตนจริงแต่ไม่พบประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 4,354 เรื่อง 3) กลุ่มที่ยังพิสูจน์ทราบตัวตนไม่ได้ 4,747 เรื่อง 4) กลุ่มที่ทราบเฉพาะเหตุการณ์และสถานที่ โดยสามารถระบุสถานที่ได้แน่ชัด 1,031 เรื่อง และสุดท้ายคือ กลุ่มที่ทราบเพียงข้อมูลแบบกว้างที่ยังพอระบุสถานที่ได้ 459 เรื่อง โดยหลายเรื่องที่กล่าวมามีความซ้ำซ้อน
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า จากนั้นสำนักงาน ป.ป.ส. จะร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมปกครอง และทุกเหล่าทัพ ดำเนินการต่อข้อมูลที่ได้รับแล้วแต่กรณี ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้ว 10,431 เรื่อง หรือร้อยละ 78.6 ในจำนวนดังกล่าวพบว่า มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง 3,514 เรื่อง และนำไปสู่การจับผู้ต้องหา 2,033 คน ส่วนใหญ่ดำเนินคดีในข้อหาเสพ นำตัวเข้าบำบัดรักษา 611 คน สำหรับยาเสพติดของกลางที่ยึดได้เป็น ยาบ้ารวม 241,300 เม็ด, ไอซ์ 133.9 กก. เฮโรอีน 3.50 กรัม, กัญชาสด 82.5 กก., กัญชาแห้ง 4 กก. พืชกระท่อม 2,600 กก., น้ำกระท่อม 106.4 ลิตร ยาแก้ไอ 3.070 กก., คีตามีน 186.12 กรัม และยาอี 10,000 เม็ด ซึ่งจากลักษณะการกระทำผิดตามที่พบและจำนวนของกลางแสดงให้เห็นว่าความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับเกิดจากผู้ขายปลีกและผู้เสพยาเสพติดในชุมชน ส่วนข้อมูลที่เหลือ 2,838 เรื่องที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีรายละเอียดไม่เพียงพอต้องทำการตรวจสอบและสืบสวนเพิ่มเติม ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็วในการแจ้งเบาะแสขอให้พี่น้องประชาชนได้ให้รายละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอย่าให้ข้อมูลที่เป็นการกลั่นแกล้งกัน เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเบาะแสที่ให้มาไม่น้อยไม่เป็นความจริงและเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่าวัตถุประสงค์ของการเปิดช่องทางสายด่วน 1386 เพื่อรับข้อมูลที่เป็นเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อนำไปสู่การปราบปราม แต่ในระยะหลังพบว่า มีพี่น้องประชาชนติดต่อเข้ามาเพื่อขอให้สำนักงาน ป.ป.ส. ช่วยนำตัวผู้ติดยาเสพติดที่เป็นบุคคลในครอบครัวหรือที่รู้จักเข้ารับการบำบัดรักษา ซึ่ง 9 เดือนที่ผ่านมา มีถึง 119 ราย แสดงให้เห็นว่าพี่น้องประชาชนให้ความเชื่อมั่นในนโยบาย “ผู้เสพเป็นผู้ป่วย” และให้ความไว้วางใจสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีในการดำเนินงาน
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้เบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และทุกเหล่าทัพที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน สำหรับการแจ้งเบาะแส สำนักงาน ป.ป.ส. นั้น ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้แจ้งเบาะแสเป็นสำคัญ จึงขอให้มีความเชื่อมั่นในการให้ข้อมูล
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ หากพบผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
ร่วมแสดงความคิดเห็น