รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ทางผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข้อมูลคนร้าย เป็นชาย 2 คน ก่อเหตุตระเวนขโมยสินค้าและวัตถุดิบที่บรรดา พ่อค้า-แม่ค้า ได้นำมาวางไว้หลังรถ หรือแขวนไว้กับรถ เพื่อไปทำธุระ ที่บริเวณตลาดเมืองใหม่ ซึ่งเป็นตลาดขายขายส่งผักและอาหารสดแห่งใหญ่ของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้มีเบาะแสภาพกล้องวงจรปิด และทางเจ้าของลานจอดรถรุ่งเรือง หลังตลาดเมืองใหม่ สามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ โดยเป็นชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ Honda Scoopy สีขาว หมายเลขทะเบียน จคม 895 เชียงใหม่ ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนี และได้มีการแจ้งเบาะแสข่าวให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายทั้ง 2 คน ตามที่ปรากฎไปแล้วนั้น
อ่านข่าวก่อนหน้า : (มีคลิป) ล่าตัว 2 โจรแสบ อาละวาดตลาดเมืองใหม่ ก่อเหตุกลางวันแสก ๆ เจอของวางทิ้งไว้เป็นหยิบ ล่าสุดมีหลักฐานกล้องวงจรปิดบันทึกหน้าชัดเจน เตรียมแจ้งความ ตร.
ความคืบหน้าล่าสุด ช่วงค่ำวันที่ 11 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมด้วย พ.ต.ท.บุรินทร์ ยมจินดา รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ต.ณัฐพล เอกฉันท์ สว.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ดำเนินการติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 คนได้แล้ว โดยทราบชื่อคือ นายกิตติพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาว ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง คือ กระทิ 100% สำเร็จรูป ตราอร่อย-ดี จำนวน 6 กล่อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกุ๊ปปี้ ไอ สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน จคม 895 เชียงใหม่ ขณะที่เจ้าตัวอยู่ภายในบ้านพักพื้นที่ ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ทางผู้เสียหายคือ จาก นายประมวล เดชชัยกุล อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของลานจอดรถรุ่งเรือง หลังตลาดเมืองใหม่ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งนำหลักฐานกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างชัดเจนเพื่อขอให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตามจับกุมตัวคนร้ายแล้วนั้น ในเวลาต่อมาจึงได้มีการสืบสวนติดตามหมายเลขทะเบียนรถที่ปรากฎหลักฐาน และทราบว่าผู้ครอบครองจักรยานยนต์คันดังกล่าวชื่อ น.ส.พรธิดา (สงวนนามสกุล) และจากการสอบถามกับทางเจ้าของรถทราบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเจ้าตัวได้ให้ทางพี่ชาย คือ นายกิตติพงษ์ นำไปใช้ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ทราบเบะแสจึงได้ดำเนินการติดตามไปตรวจสอบยังบ้านพักของผู้ต้องหา ซึ่งพบ นายกิตติพงษ์ อยู่ภายในบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำหลักฐานพร้อมด้วยหมายจับจากศาลหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.423/2563 ลงวันที่ 11 ก.ค. 2563 แสดงให้ดู ซึ่งทาง นายกิตติพงษ์ ยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง โดยร่วมมือกับ นายอภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) แต่ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้หลบหนีไปและไม่สามารถติดต่อได้ และได้ควบคุมตัว นายกิตติพงษ์ มาสอบสวนเพิ่มเติม
โดยทาง นายกิตติพงษ์ ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่า ตามเวลาเกิดเหตุตนได้ร่วมกับ นายอภิสิทธิ์ ก่อเหตุลักทรัพย์กระทำสำเร็จรูป ตราอร่อย-ดี จำนวน 1 ลัง (12 กล่อง) โดยตนเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วน นายอภิสิทธิ์ เป็นคนนั่งซ้อนท้าย และหลังก่อเหตุทั้งสองได้นำกะทิสำเร็จรูป ตราอร่อย-ดี ไปขายที่ร้านขายของชำ ที่บ้านหนองผึ้ง อำเภอสารภี โดยมีแม่ค้าเป็นเจ้าของร้านรับซื้อไว้ ในราคา 500 บาท โดยหลอกเจ้าของร้านว่า เพื่อนที่มาด้วยกัน ได้ปิดกิจการร้านขายของชำและอาหารตามสั่ง จึงนำมาขายให้ในราคาถูก ซึ่งทางแม่ค้าไม่ทราบว่าเป็นของกลางที่ทั้ง 2 คน ไปก่อเหตุขโมยมา จึงได้รับซื้อไว้ อย่างไรก็ตามหลังการสอบสวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายกิตติพงษ์ ผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งจะได้เร่งดำเนินการติดตามสืบหาเบาะแสของ นายอภิสิทธิ์ ผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่กำลังหลบหนีเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น