รพ.นครพิงค์ และหลายหน่วยงานในเชียงใหม่ ทำ MOU สนับสนุนกิจกรรมยุติปัญหา HIV

วันพุธ ที่ 22 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 7 โรงพยาบาลนครพิงค์ โดยองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) องค์การแฟมิลี่ เฮลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (FHI 360) สถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี (IHRI) สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1 เชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ องค์กรแคร์แมทเชียงใหม่ และโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันลงนามและเป็นพยาน ในการลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรม เพื่อยุติปัญหาเอชไอวีในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างองค์กรภาครัฐ และองค์กรภาคประชาสังคม ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อยุติการแพร่เชื้อ HIV และควบคุมสถานการณ์โรคเอดส์ในจังหวัดเชียงใหม่

โดย นพ.วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวว่า โรงพยาบาลฯได้ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ตลอดจนผลักดันส่งเสริมให้หน่วยงานต่าง ๆ ในโรงพยาบาล ให้การดำเนินการตามยุทธศาสตร์แห่งชาติ ว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560-2573 ที่จะหยุดยั้งการระบาดของเอชไอวี ไม่ให้เป็นปัญหาด้านสาธารณสุข โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อ ได้แก่ ลดการติดเชื้อเอช ไอ วี รายใหม่ ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ลดการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจาก เอช ไอ วี และเพศภาวะลง ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าอัตราการติดเชื้อ เอช ไอ วี ในภาพรวมของประเทศไทยรวมถึงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม พบว่ากลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และสาวประเภทสอง เป็นต้น ยังอยู่ในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับประชากรกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ของประเทศไทยนั้น ให้ความสำคัญกับ Reach-Recruit-Test-Treat/Prevent-Retain คือ การเข้าถึง การนำเข้าสู่บริการ การตรวจหาการติดเชื้อ การรักษา/ป้องกันการติดเชื้อ การช่วยให้คงอยู่ในระบบบริการ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย ภายในปี 2573 ที่กำหนดโดยโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ดังนั้นความร่วมมือกันระหว่างภาคีเครือข่าย จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการผลักดันให้เกิดความก้าวหน้า และความสำเร็จของการทำงานด้านเอชไอวี/เอดส์ ในเขตพื้นที่จังหวัดเซียงใหม่ ผ่านการสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างองค์กรภาครัฐ และองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อยุติเอชไอวี/เอดส์ในจังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป

ส่วนสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อในภาพรวมของเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ระบุว่า ยังมีผู้ป่วยเพิ่มทุกปีแม้จะไม่มีอัตราที่สูงมากแค่ก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะยังมีการตระหนักรู้น้อยลง อีกทั้งพบว่ามีการติดเชื้อซิฟิลิสเพิ่มสูงในกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น และเชียงใหม่มีสถิติสูงสุดในประเทศเวลานี้ และยังไปเกี่ยวเนื่องกับปัญหาท้องในวัยเรียนของวัยรุ่นเพิ่มขึ้นด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น