แม่โจ้โพลล์ชี้ ผู้ปกครอง ร้อยละ 81.55 โอดไม่พร้อมรับมือ การเรียนการสอนออนไลน์

แม่โจ้โพลล์ ภายใต้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปจากทั่วประเทศ จำนวน 1,035 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5 – 10 กรกฎาคม 2563 ในหัวข้อ “ความคิดเห็นประชาชน..ต่อการเรียนการสอนอนไลน์” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสอบถามประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับความคิดเห็นต่อการเรียนการสอนออนไลน์ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สรุปผลได้ดังนี้

จากการสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับความพร้อม ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในการเรียนการสอนแบบออนไลน์ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.55 ไม่มีความพร้อมจะเรียนออนไลน์ได้ มีเพียงร้อยละ 18.45 ที่มีความพร้อมในประเด็นดังกล่าว

เมื่อสอบถามถึงปัญหาที่พบมากที่สุด ในการเรียนการสอนแบบออนไลน์ พบว่า อันดับ 1 ส่วนใหญ่ร้อยละ 56.23 บุตรหลานไม่มีสมาธิเหมือนเรียนในห้องเรียน โดยอันดับ 2 ร้อยละ 47.54 ไม่มีอุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อันดับ 3 ร้อยละ 41.74 ไม่สามารถดูแลและควบคุมบุตรหลานได้ เนื่องจากต้องทำงานประจำ อันดับ 4 ร้อยละ 40.87 ไม่มีเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ต ในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ อันดับ 5 ร้อยละ 37.68 เครือข่ายอินเตอร์เน็ตล่มไม่เสถียร/ไม่มีประสิทธิภาพ อันดับ 6 ร้อยละ 30.05 หาช่องที่เรียนไม่เจอ อันดับ 7 ร้อยละ 24.44 สอนเร็วเกินไปจนตามไม่ทัน และอันดับ 8 ร้อยละ 9.66 เนื้อหาในการสอนเก่าเหมือนที่เคยเรียนมาแล้ว

เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการเรียนการสอนออนไลน์ในอนาคต พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.80 ยังไม่เห็นด้วย โดยมีเพียงร้อยละ 37.20 ที่เห็นด้วยกับการเรียนออนไลน์ในอนาคต

ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงช่วงวัยที่เหมาะสม ในการเรียนการสอนแบบออนไลน์ในช่วงชั้นไหนมากที่สุด พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.79 เหมาะสำหรับชั้นอุดมศึกษา รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา ร้อยละ 30.24 ระดับประถมศึกษา ร้อยละ 9.76 และระดับปฐมวัย ร้อยละ 8.21 ตามลำดับ

จะเห็นได้ว่าประชาชนบางส่วน ได้รับผลกระทบในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน จากรูปแบบเดิมเป็นรูปแบบออนไลน์ โดยมีหลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในด้านความพร้อม และการสนับสนุนให้บุตรหลานได้เรียนออนไลน์

(ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทรศัพท์ 053-875265)

ร่วมแสดงความคิดเห็น