(มีคลิป) คืบหน้าแจ้งข้อกล่าวหาแกนนำผู้ชุมนุมท่าแพ หลังเข้าพบ ตร. ล่าสุดแกนนำแจง “ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา” พร้อมขอต่อสู้คดีจนถึงที่สุด

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 30 ก.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ภายหลังจากการที่ทาง พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เชิญตัวบรรดากลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ข่วงประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมชุมนุมกันขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค.63 ที่ผ่านมา และวานนี้ (29 ก.ค.63) เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหา ประกอบด้วย นายวัชรภัทร ธรรมจักร อายุ 22 ปี, นายธนาธร วิทยเบญจางค์ อายุ 21, นายวิธญา คลังนิล อายุ 23 ปี และ นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ อายุ 25 ปี โดยทางกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมดังกล่าวก็ได้มีการนำทนายความเข้ามาพูดคุย ซึ่งในการเข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ทางกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมได้เดินทางมาด้วยความสงบและได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้เข้าทำการให้ปากคำโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลรักษาความสงบ และขอไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าทำการถ่ายภาพแต่อย่างใด จนกว่าจะมีการสอบสวนเสร็จสิ้น กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ทางด้านกลุ่มแกนนำทั้งหมดได้ออกมาจากสถานีตำรวจ โดยที่บริเวณด้านหน้า ได้มีกลุ่มตัวแทนผู้ชุมนุมเดินทางมาให้กำลังใจพร้อมทั้งมอบดอกไม้ให้กับกลุ่มแกนนำทั้งหมดหลังการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน จากการสอบถาทางด้าน นายวัชรภัทร ธรรมจักร อายุ 22 ปี หนึ่งในแกนนำ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางแกนนำผู้ชุมนุมได้เดินทางมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียก และได้มารับทราบข้อกล่าวหากับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ชุมนุม มั่วสุม ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และอีกฐานความผิดคือ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ” ซึ่งทางแกนนำได้รับทราบข้อกล่าวหาและขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเนื่องจากทางฝั่งตนยังเชื่อว่าการชุมนุมภายใต้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งหากดูตามข้อเท็จจริงแล้วโรคโควิด-19 ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยมาถึง 60 กว่าวันแล้ว และมีแต่ที่เกิดขึ้นก็คือเขตของรัฐบาล และอีกมิติหนึ่ง หากมีการแจ้งข้อกล่าวหา ควบคุมโรคหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็อยากให้เอาไปเปรียบเทียบมาตรฐานกับการที่นายกรัฐมนตรี ได้มาทำกิจกรรมปลูกป่าล่าสุดที่ผ่านมาในเชียงใหม่ ซึ่งก็มีคนมารอต้อนรับไม่ได้น้อยไปกว่าที่ทางกลุ่มมีการชุมนุมแต่อย่างใด แต่กลับไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งอันนี้แสดงให้เห็นถึงความสองมาตรฐานกับเจ้าหน้าที่รัฐเองที่ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กับผู้ชุมนุม

และทั้งนี้ตนอยากฝากกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้หากมีการเปรียบเทียบ จะเห็นว่ามีความคล้ายคลึงกัน มีการชุมนุมเหมือนกัน แต่ทำไมอีกฝั่งไม่โดนซึ่งเป็นข้อหนึ่งที่น่าตั้งข้อสงสัย แต่อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางตนและแกนนำคนอื่นๆ ก็ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งยืนยันว่าจะสู้ตามกฎหมายและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะเดียวกัน ในส่วนของเรื่องการจัดกิจกรรมอะไรต่อไปหลังจากนั้น อาจจะต้องรอติดตามต่อไป เนื่องจากในอนาคตก็ไม่แน่ชัด แต่ก็อยากให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องคือ ยุบสภา, หยุดคุกคามประชาชน รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่