ญาติยืนยันไม่รู้ ‘จารุชาติ’พยานปากเอกคดี “บอส ทายาทกระทิงแดง” ทำงานที่ไหน หรือเป็นพยานหรือไม่

จากกรณีนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอก “คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา” หรือบอส ทายาทธุรกิจกระทิงแดงขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต และนายจารุชาติได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากทางญาติได้รับศพกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิดเลขที่ 255 หมู่บ้านวังชมภู หมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย

โดยในวันนี้นางตา วังมูล อายุ 76 ปีมารดาพร้อมด้วยญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างร่วมกันเตรียมจัดประกอบพิธี ฌาปนกิจศพให้กับนายจารุชาติ ซึ่งทางญาติมีกำหนดที่จะพิธีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ที่สุสานภายในหมู่บ้าน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศพ “จารุชาติ” พยานคนสำคัญ ‘คดีบอส ทายาทกระทิงแดง’ ถึงบ้านแล้ว ญาติยันไม่ทราบเรื่องทั้งการเป็นพยานและเหตุเสียชีวิต 

ซึ่งงานศพของนายจารุชาติ ได้จัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามหลักศาสนาพุทธตามความเชื่อของชาวล้านนา ซึ่งจะมีการประกอบพิธีทางศาสนาจำนวน 3 คืน เนื่องจากการที่นายจารุชาติ ได้ออกไปทำงานนอกหมู่บ้านตั้งแต่วัยเยาว์และนานครั้งจะกลับมาเยี่ยมบ้าน ทำให้ที่บ้านไม่มีแม้แต่รูปถ่ายของนายจารุชาติที่จะติดตั้งหน้าโลงศพ แต่ทางญาติก็พยายามจัดพิธีศพให้กับนายจารุชาติเป็นครั้งสุดท้ายให้ดีที่สุด ขณะที่ทรัพย์สินที่ญาตินำกลับมาจาก จ.เชียงใหม่ พบว่ามีเพียงไม่กี่ชิ้นโดยเป็นกระเป๋าเสื้อผ้า ถุงพลาสติก หม้อหุงข้าว พัดลม ฯลฯ เท่านั้น

ทั้งนี้ช่วงคืนที่ผ่านมามี ด้าน พ.ต.อ.ธาตรี กุลวัฒน์ ผกก.สภ.พาน ได้พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมงานศพ และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากนายสมานและนางตา ซึ่งก็พบว่าทั้งคู่ไม่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับการไปเป็นพยานในคดีนายวรยุทธดังกล่าวแต่อย่างใด

นางตา กล่าวว่าตนยังคงยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยทราบเลยว่าบุตรชายไปเป็นพยานในคดีใด ๆ เพราะเขาไม่เคยเล่าให้ฟัง เพียงแต่ทราบว่าเขาได้ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ มาโดยตลอด โดยออกจากบ้านไปตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น และอาจจะไปทำงานที่ต่างประเทศเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อนซึ่งตนก็จำเดือนและปีได้ไม่ชัดเจน กระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิตอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งก็ยังไม่เข้าใจเพราะเดิมคิดว่าเขาทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ก็มาเสียชีวิตที่เชียงใหม่แล้วดังกล่าว ขณะที่เหตุการณ์เมื่อปี 2555 นั้นตนจำไม่ได้จริง ๆ ว่าอยู่ที่ไหนโดยสงสัยว่าอาจจะอยู่ต่างประเทศแต่ไม่ชัดเจนมากนัก เพราะเหตุการณ์ผ่านมานานหลายปีแล้ว ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่นของบุตรชายเช่นบัญชีธนาคารหรืออย่างก็ไม่ทราบว่ามีหรือไม่เพราะไม่ทราบที่อยู่และที่ทำงาน และไม่เคยเรื่องส่วนตัวให้กับทางครอบครัวได้ทราบเลย

ด้าน น.ส.ตะวันฉาย มาดทอง อายุ 15 ปี บุตรสาวของนายจารุชาติ กล่าวว่าตามปกติพ่อจะโทรศัพท์ไปหาตนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ซึ่งก็มักจะสอนให้ดูแลหลานและปู่ย่าให้ดีเท่านั้นโดยไม่ได้พูดคุยเรื่องการทำงานหรือการไปเป็นพยานใด ๆ ส่วนการเดินทางไปทำงานตามที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศนั้นตนจำไม่ได้ เพราะเมื่อปี 2555 นั้นตนยังเด็กอยู่ ตนไม่ค่อยได้เจอพ่อบ่อยนัก เจอครั้งสุดท้ายเมื่องานครบรอบวันเกิดของเดือนเมื่อวันที่ 5 เดือนมิถุนายน ปีที่แล้วเท่านั้น จากนั้นก็โทรศัพท์คุยกันอย่างเดียว โทรมาครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่ก็ไม่ได้บอกอะไรกับตนเลย

ร่วมแสดงความคิดเห็น