ตามรวบ “ไทเกอร์” ตีนแมวอาละวาดทั่วเมือง

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2563 เวลา 13.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.ตรีเพชร ป่าหวาย สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.ชุวาพล ชัยสาร สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.ชัยพล ชัยชนะ รอง สว.สส.ฯ พร้อมกับพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายไทเกอร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง คือ แมคบุ๊ค พร้อมกระเป๋า จำนวน 2 เครื่อง, กล้องถ่ายรูป ยี่ห้อแคนนอน สีดำ จำนวน 1ตัว, กล้องบันทึกภาพโกโปร รุ่นฮีโร่ 3 สีเทา จำนวน 1 ตัว, ลำโพงบลูทูธ สีดำ จำนวน 1 ตัว, รองเท้าผ้าใบยี่ห้อไนกี้ สีดำคาดส้ม จำนวน 1 คู่, รองเท้าผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์ส สีน้ำตาล จำนวน 1 คู่, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดงเทา หมายเลขทะเบียน จกข 270 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน, รองเท้าแตะยี่ห้อดีเดล สีดำ จำนวน 1 คู่ ที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ, เสื้อยืดแขนสั้นสีคราม ยี่ห้อซีร่า จำนวน 1 ตัว ที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ, กางเกงวอร์ม สีดำแถบขาว จำนวน 1 ตัว ที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ และหมวกแก็ป ยี่ห้ออาดิดาส สีขาว จำนวน 1 ใบ ที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า มีความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร ”

พฤติการณ์แห่งการจับ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 63 เวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ เหตุเกิดที่บ้านใน ถ.ศรีภูมิ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยมี ผู้เสียหาย และได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนไว้แล้ว โดยแจ้งว่าตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ตนเองได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้มีชายคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดงเทา มาจอดบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ และชายคนดังกล่าวแอบเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ขโมยทรัพย์สินภายในบ้านและขับขี่ยานพาหนะคันดังกล่าวหลบหนีไป ซึ่งพลเมืองดีดังกล่าวได้ใช้มือถือถ่ายภาพคนร้ายและยานพาหนะไว้ได้ สามารถเห็นลักษณะรูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะและหมายเลขทะเบียนรถได้อย่างชัดเจน และเมื่อผู้เสียหายได้สำรวจทรัพย์สินภายในบ้านพบว่า มีทรัพย์สินสูญหาย จำนวนหลายรายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยนำข้อมูลทะเบียนรถของคนร้ายตรวจสอบในระบบขนส่งทราบว่า รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นยานพานะ เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดงเทา หมายเลขทะเบียน จกข 270 เชียงใหม่

 

โดยมีนายไทเกอร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ถูกจับ ซึ่งมีลักษณะตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุ พักอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงบริเวณในซอยด้านหลังบ้าน สถานที่จับกุม พบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี จอดอยู่บริเวณริมถนนในซอยหลังบ้าน ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ สถานที่จับกุม และพบว่าบริเวณประตูหลังบ้าน ซึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 3 เมตร เปิดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นรองเท้า วางอยู่บนชั้นวางรองเท้าหน้าประตูบ้าน จึงเชื่อแน่ว่าคนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านดังกล่าวอย่างแน่นอน จึงได้เรียกให้บุคคลที่อยู่ในบ้านให้เปิดประตู สักพักได้ยินเสียงชายคนหนึ่งขานรับอยู่ที่บนบ้าน และเปิดประตู สอบถามทราบชื่อและนามสกุลจริงภายหลัง คือ นายหรือไทเกอร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว พร้อมทั้งแสดงบัตร และแจ้งยศ ชื่อ ตำแหน่งให้ทราบ ทันทีที่ นายไทเกอร์ ผู้ถูกจับ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงอาการตกใจ มีสีหน้าซีด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้น นายไทเกอร์ ผู้ถูกจับ ได้ให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในห้องนอนภายในบ้าน โดย นายไทเกอร์ ผู้ถูกจับ ยินยอมให้ตรวจค้นด้วยความสมัครใจและเป็นผู้นำการตรวจค้น

ผลการตรวจค้นพบของกลางที่ตรวจยึดได้วางอยู่บนเตียงนอนภายในห้องนอนในบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดทรัพย์สินทั้งหมดไว้เป็นของกลาง และควบคุมตัว นายไทเกอร์ มายัง สภ.เมืองเชียงใหม่ และจากการสอบถาม นายเกอร์ ผู้ถูกจับ ได้ให้การยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุคดีลักทรัพย์ฯ ดังกล่าวข้างต้นจริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมด้วยเหตุแห่งการจับโดยไม่มีหมายจับ ตาม ป.วิอาญา มาตรา 78 (3) ประกอบกับ ป.วิอาญา ม.66 (2) ผู้ถูกจับ ทราบว่า ให้ทราบว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร” จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้จัดทำบันทึกการจับกุมไว้เป็นหลักฐาน นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น