รมว.ยุติธรรม แถลงผลตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ 108 เครือข่าย ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท ตามนโยบายรัฐบาล ย้ำ ! ทำได้จริงเกินเป้าปี 2563

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. นายธนพล จูฑะเตมีย์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการคดียาเสพติด นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้อำนวยการกองคดี 2 สำนักงาน ปปง. นายเชิดชาย อยู่แพทย์ นักตรวจสอบภาษีเชี่ยวชาญ กรมสรรพากร และนายณัฏฐพล หงสกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงผลงานบูรณาการยึดทรัพย์สิน ตัดเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด มูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท ณ กระทรวงยุติธรรม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนยึดทรัพย์ ตัดวงจรการค้ายาเสพติดตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เน้นการสืบสวนสอบสวนทางการเงิน ขยายผล สู่การยึดทรัพย์ เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากประเทศไทย ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ตามคำสั่ง ศอ.ปส. ที่ 5/2563 เพื่อให้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ โดยมุ่งเน้นทำลายเครือข่ายและการติดตามยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ตาม พรบ.มาตรการฯ พ.ศ. 2534 พรบ.ฟอกเงินฯ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนเมษายน-ปัจจุบัน สามารถทำลายเครือข่ายทั้งประเทศได้ 108 เครือข่าย รวมมูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้

 

 

ด้าน นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสรรพากร และสำนักงานอัยการคดียาเสพติด เร่งสืบสวนสอบสวนทางการเงิน ยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิด หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดให้ได้มากที่สุดและต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำลายเครือข่ายยาเสพติดให้หมดไป และลดความเดือดร้อนของประชาชน

 

 

นอกจากนี้ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. รายงานผลการดำเนินการว่า ในห้วงเดือนกรกฎาคม 2563 ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1-9/กทม. และหน่วยงานในพื้นที่ สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศได้ 55 เครือข่าย 91 เป้าหมาย เป็นหมายจับ 54 หมาย หมายค้น 37 หมาย และจับกุมผู้ต้องหาได้ 187 คน ของกลางยาบ้า 3,757,280 เม็ด ไอซ์ 1,454 กิโลกรัม เฮโรอีน 8.4 กิโลกรัม คีตามีน 3.6 กิโลกรัม และกัญชา 2,092 กิโลกรัม และยึดทรัพย์ 155 รายการ มูลค่า 39,765,000 บาท รวมทั้งทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเนื่องกับยาเสพติด 388 รายการ มูลค่า 212,178,494 บาท รวมยึดทรัพย์สินทั้งหมด 543 รายการ มูลค่า 251,943,494 บาท

 

 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.พรชัยฯ เปิดเผยถึงปฏิบัติการล่าสุดว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรภาค 7 ฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงาน ปปง. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้ปฏิบัติการยุทธการสยบไพรี 63/16 “ยุทธการทลายขุมทรัพย์ จับแก๊งยานรก” สนธิกำลังเข้าจับกุมยึดทรัพย์ในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเครือข่ายชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน จ. เชียงใหม่ (ดอยสะเก็ด, แม่ริม) ที่เป็นเครือญาติ และกลุ่มค้ายาเสพติดรายสำคัญ ติดต่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตพื้นที่ชายแดนภาคกลาง ภาคใต้ และประเทศที่สาม โดยเปิดธุรกิจค้าเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึกบังหน้า เพื่อแปรสภาพทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มเครือญาติ โดยสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 ได้จับกุม นายปัญญา (สงวนนามสกุล) กับพวกรวม 3 คน ของกลางยาบ้า 610,000 เม็ด ที่ จ.พิษณุโลก ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ได้จับกุมนายจิรเดช (สงวนนามสกุล) กับพวกรวม 3 คน ของกลางยาบ้า 5,300,000 เม็ด ที่ริมถนน อ.ขาณุวรลักษบุรี
จ.กำแพงเพชร จึงได้ขยายผลทราบว่า นายสว่าง (สงวนนามสกุล) และเครือญาติ เป็นผู้สั่งการ จึงขออนุมัติออกหมายจับข้อหาสมคบฯ จำนวน 4 คน ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ได้แก่ นายสว่าง ภมรวิจิตร น.ส.วันเพ็ญ (สงวนนามสกุล) (ภรรยา) นายเฉลิมพล และ นายบันลือ (ลูกนายสว่าง)

 

พล.ต.ต.พรชัยฯ เปิดเผยต่ออีกว่า จากผลปฏิบัติการล่าสุดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาเป็นไป ตามเป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน และปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 30 จุด (เชียงใหม่ 22 เป้าหมาย เชียงราย 1 เป้าหมาย กรุงเทพฯ 1 เป้าหมาย และประจวบคีรีขันธ์ 6 เป้าหมาย) ยึดอาคารพาณิชย์ 5 คูหา จ.เชียงใหม่ มูลค่า 50,000,000 บาท บ้าน 24 หลัง ที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ และประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 97,000,000 บาท โฉนดที่ดิน 12 แปลง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มูลค่า 39,600,000 บาท รถยนต์ 22 คัน รถจักรยานยนต์ 27 คัน มูลค่า 15,985,000 บาท อายัดบัญชีตรวจสอบ 52 บัญชี พร้อมบัตรกดเงินสด 5 รายการ รวมยึดทรัพย์สินทั้งหมด 147 รายการ มูลค่า 202,585,000 บาท

โดยสรุปผลการปฏิบัติการสืบสวน สอบสวน ขยายผล ยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดในห้วงเดือนกรกฎาคม 2563 ตามคำสั่ง ศอ.ปส.ที่ 7/2563 สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติด ได้ทั้งสิ้น 56 เครือข่าย หมายจับ 58 หมาย หมายค้น 67 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 191 คน และยึดทรัพย์ได้ทั้งสิ้น 690 รายการ มูลค่า 454,528,494 บาท

ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย “สมัครใจเข้ารับการบำบัด ไม่เสียประวัติ ไม่มีความผิด”
แจ้งเบาะแสยาเสพติด สายด่วน ป.ป.ส โทร.1386

ร่วมแสดงความคิดเห็น