กู้เรือท่องเที่ยวจมน้ำโขงขอกองทัพเรือช่วยด่วน หลังน้ำโขงเพิ่มและไหลเชี่ยว

วันที่ 12 ส.ค.63 การกู้เรือแม่โขงเดลต้าเรือแม่โขงเดลต้าเรือท่องเที่ยวสัญชาติไทยที่จมลงในแม่น้ำโขงเพราะฝนตกหนักวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา บริเวณ ชายแดนไทย-สปป.ลาว บ้านป่าสักหางเวียง หมู่ 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เปิดปฏิบัติการ “รวมใจเป็นหนึ่ง” โดยระดมกำลังสนธิกำลังทำการลากและนำเรือมาผูกด้วยเชือกสลิงเอาไว้ริมฝั่งไทยก่อนละยกให้เรือตั้งอยู่ในแม่น้ำ โดยประเมินความเสียหายได้ประมาณ 50 ล้านบาท

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและเจ้าของเรือได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์ รวมถึงวิเคราะห์ระดับแม่น้ำโขง พบว่าปริมาณน้ำกำลังเป็นอุปสรรคและกำลังเพิ่มสูงขึ้นเนื้องจากฝนที่ตกลงมา และการปล่อยน้ำจากเขื่อนในประเทศจีน ทำให้โอกาสที่จะทำให้เรือลอยลำขึ้นมาจึงทำไม่ได้จึงได้หยุดปฏิบัติการยกเรือและสูบน้ำชั่วคราว เพื่อรอผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ ขณะที่ทางผู้ประกอบการเรือได้ให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจในห้องดาดฟ้าและชั้นวีไอพี 3 รวมทั้งห้องควบคุมเรือที่โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำพบว่าภายในได้รับความเสียหายทั้งหมด ขณะที่การสำรวจใต้ท้องเรือพบว่าตั้งอยู่บนหินที่ลาดชันและลึกลงไปทำให้ยากต่อการพยุงลำเรือ

ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียราร์ เจ้าของเรือ กล่าวว่าจากการที่ได้ประชุมร่วมกับทุกฝ่ายแล้วก็ได้ข้อสรุปว่าจะมีการประสานงานไปยังกองทัพเรือ เพื่อขอรับการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนทั้งเรื่องเครื่องจักรเครื่องมืออุปกรณ์ นักประดาน้ำ กำลังพล เพราะที่ผ่านมาได้ระดมกำลังเรือและอุปกรณ์ที่พอมีอยู่ในท้องถิ่นทั้งจากหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ที่ได้ทุ่มกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และฝ่ายต่างๆ แล้วพบว่ายังไม่เพียงพอหรือต้องอาศัยความชำนาญของหน่วยงานเฉพาะจากเจ้าหน้าที่ในกองทัพเรือ ดังนั้นจึงได้มีการจัดทำหนังสือขอรับการสนับสนุนไปยังกองทัพเรือโดยด่วนแล้วเพราะระดับน้ำในช่วงนี้สูงมาก จึงเกรงว่าหากเชือกสลิงที่ผูกมัดกับเรือและต้นไม้ที่ทำกันอยู่ในปัจจุบันทานเอาไว้ไม่ได้อาจทำให้เรือจมและคว่ำลงไปแล้วถูกแม่น้ำพัดไปได้