สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ยื่นหนังสือเพื่อขออนุมัติแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบิณฑบาตไม่เกินเวลา 08.00 น.

ด้วยสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ทำหนังสือเสนอต่อ มหาเถรสมาคม และแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขออนุมัติแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบิณฑบาตของพระภิกษุสงฆ์ ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย โดยระบุว่ามีการร้องเรียนผ่านระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีการบิณฑบาตของพระสงฆ์ ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เช่น การบิณฑบาตก่อนอรุณ การกลับเข้าวัดเกินเวลาที่กำหนด รับบิณฑบาตมากเกินความจำเป็น หรือถ่ายเทอาหารให้บุคคลภายนอก นั่งหรือยืนปักหลักบิณฑบาตบริเวณหน้าร้านค้า ตลอดจนนำอาหารที่ได้รับมาให้ร้านค้าจำหน่ายต่อ รวมทั้งหวังแต่ลาภสักการะ เมื่อบิณฑบาตแล้ว อาหาร ดอกไม้ ธูป เทียนที่ได้ไม่นำกลับวัด ทิ้งไว้ข้างทาง ซึ่งทั้งหมดเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแก่สมณวิสัย ทำให้ผู้ใส่บาตรและผู้ที่พบเห็นเสื่อมความศรัทธา เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว และลดปัญหาข้อร้องเรียน สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมจึงเห็นควรนำเรื่องดังกล่าวเสนอมหาเถรสมาคม กำหนดแนวทางปฏิบัติของพระสงฆ์จากกรณีดังกล่าว เพื่อพิจารณา รวม 6 ข้อ คือ
1. การออกบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณร จะต้องออกบิณฑบาต เวลาได้รับอรุณ และไม่ควรบิณฑบาตเกินเวลา 08.00 น.
2. การบิณฑบาตรโดยยืนหรือนั่งประจำที่ตามร้านขายอาหาร หรือบิณฑบาตโดยเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่าง ๆ นอกพื้นที่บิณฑบาต แห่งวัดตนไม่สมควรกระทำ
3. การบิณฑบาตด้วยการนั่งรับบาตร หรือนั่งในรถรับบาตรไม่สมควรกระทำ
4. สถานที่ที่เป็นแหล่งโคจร พระภิกษุไม่ควรเข้าไปบิณฑบาตร
5. การบิณฑบาตรไม่ควรสูบบุหรี่ สวมรองเท้า พูดคุยกันโดยไม่มีเหตุจำเป็น ถ่ายเทอาหาร หรือทิ้งดอกไม้ให้กับเจ้าของร้านอาหาร หรือแย่งกันรับของปัจจัย
6. เมื่อบิณฑบาตเสร็จแล้วไม่ควรสวดยถา หรือ สัพพี

ทั้งนี้ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในทุกระดับ ตลอดจนพระวินยาธิการ คอยตรวจตรา สอดส่อง ดูแล พระภิกษุสงฆ์-สามเณรในการบิณฑบาต ให้เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย โดยยึดหลักเสขียวัตรเป็นเกณฑ์

ร่วมแสดงความคิดเห็น