ฝ่ายปกครอง อ.ไชยปราการ เร่งตรวจสอบสาเหตุ สุกรกว่า 200 ตัว ตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ หวั่นเกิดโรคระบาด พร้อมกำชับปรุงสุกก่อนรับประทาน

วันที่ 17 ก.ย. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่มีรายงานมาว่าขณะนี้ได้มีสุกรในพื้นที่ของ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่งเกิดล้มตายกว่า 200 ตัว อย่างไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ส่งผลทำให้ประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว เกิดความวิตกกังวลและเกรงว่าจะเกิดโรคระบาดร้ายแรงขึ้นภายในพื้นที่ และได้มีการร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบ รวมไปถึงได้มีการดำเนินการทำลายซากสุกรที่ตายทั้งหมดด้วยความปลอดภัย ตามที่ได้มีข้อมูลปรากฎออกมาแล้วนั้น

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด ช่วงสายวานนี้ (16 ก.ย. 63) ทางผู้สื่อข่าวได้รายงานมาว่า ภายหลังเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของ อ.ไชยปราการ นำโดย นายบุญช่วย มนัส กำนัน ต.แม่ทะลบ, นายสมพงษ์ สุรินทร์ต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.แม่ทะลบ พร้อมด้วย นายวิชาญ จันทร์พุธ ว่าที่ผู้สมัคร สจ.เขตไชยปราการ และตัวแทนจากทาง อ.ไชยปราการ ได้ร่วมกันเดินทางไปยังฟาร์มแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตามที่ได้ปรากฎในข่าวที่แจ้งว่ามีการตายของสุกรในฟาร์มกว่า 200 ตัว เพื่อดำเนินการตรวจสอบสถานที่และสาเหตุเบื้องต้น

โดยในโอกาสนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการกำชับทางเจ้าของฟาร์ม ในการรักษาความสะอาดและสุขอนามัย พร้อมทั้งได้ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ ที่ใช้ในการทำลายซากสุกรที่ล้มตาย ส่วนสาเหตุการตายของสุกรดังกล่าวนั้น ทางด้านเจ้าของฟาร์มได้แจ้งว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการรอผลตรวจสอบ และยืนยันสาเหตุการตาย จากเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และในส่วนของการจัดการกับซากสุกรที่ตายนั้น ได้ดำเนินการขุดหลุมฝัง และได้มีการใช้ไม้ทับบริเวณจุดที่มีการฝังกลบ เพื่อป้องกันการถูกสัตว์อื่นขุดและคาบซากสุกรที่ฝั่งไปจากหลุม รวมไปถึงกรณีอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ยังได้มีการกำชับ และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและผู้บริโภคในพื้นที่ จึงได้มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ เพื่อไม่ให้เกิดความวิตกกังวล โดยยืนยันว่าสามารถบริโภคและจับจ่ายได้ตามปกติจากเขียงหมู หรือสถานที่จำหน่ายประจำที่มีความสะอาดและได้มาตรฐาน พร้อมทั้งแนะนำว่าหากรับประทานควรมีการปรุงสุกก่อน เพื่อความปลอดภัยและเป็นการฆ่าเชื้อ ส่วนฟาร์มอื่น ๆ ก็ได้มีการกำชับในเรื่องของการรักษาความสะอาดพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคระบาดอีกทางหนึ่ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น