(มีคลิป) จังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งทุกหน่วยงานพร้อมรับมือพายุโนอึล ที่จะเข้าถึงในวันที่18-20 กันยายน 2563 นี้ ขณะที่ผลกระทบจากฝนตกหนักในครั้งก่อนยังไม่คลี่คลาย ห

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ประกาศเตือนพายุโนอึล ที่จะส่งให้เกิดฝนตกหนัก ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งในเรื่องดังกล่าวได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ให้บูรณาการร่วมกันคอยให้การช่วยเหลือประชาชนและการแจ้งพื้นที่เสี่ยงภัยจากฝนตกหนัก จากเครื่องวัดปริมาณฝนอัตโนมัติที่ติดตั้งทั่วทั้งจังหวัด โดยทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการติดตามสถานการณ์การรายงานปริมาณน้ำฝนจากอุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณฝนอัตโนมัติ หากพบว่าพื้นที่ไหนมีฝนตกหนักต่อเนื่องและมีปริมาณน้ำฝนเกินกว่า 50 มิลลิมเมตรจะต้องเร่งแจ้งเตือนไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนพร้อมรับมือและส่วนราชการจะเร่งเข้าไปช่วยเหลือหากต้องมีการอพยพโยกย้ายราษฎรออกจากจุดเสี่ยงภัย

นายสมเดช วรรณก้อน ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนประสานและบริหารจัดการลุ่มน้ำสาละวิน สังกัดสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 กรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันทางกรมทรัพยากรน้ำได้มีการดำเนินการ โครงการพัฒนาระบบติดตามสถานการณ์น้ำทางไกลอัตโนมัติลุ่มน้ำสาละวิน จำนวน 14 แห่ง จากเดิมมีอยู่แล้ว จำนวน 20 สถานี ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการเริ่มดำเนินโครงการและการประชาสัมพันธ์ให้แก่หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อรับฟังความคิดเห็น ซึ่งหากดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จ จะสามารถทำให้ทราบสถานการณ์น้ำฝนในทุกพื้นที่ ตั้งแต่ พื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ไปจนถึงพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งข้อมูลที่อุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติแจ้งมายังห้องปฏิบัติการควบคุม จะทำให้สามารถเตรียมการณ์รับมือกับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ได้ทันท่วงที

สำหรับสถานการณ์พายุโซนร้อน โนอึล ในวันที่ 17 กันยายน 2563 เวลา 07.00 พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “ Noul” (โนอึล) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 14.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.8 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีทิศทางการเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วอย่างช้าๆ พายุนี้มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง และจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือของประเทศไทย ในช่วงวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ในส่วนของผลกระทบจากพายุฝนที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้มีบ้านเรือน ไร่นา สิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิ ถนน ระบบประปา ซึ่งยังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม ยังไม่แล้วเสร็จ หากมีฝนตกหนักลงมาอีกจะยิ่งทำให้สถานการณ์หนักมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบางแห่ง ประชาชนในพื้นที่ต้องช่วยกันในการซ่อมแซมถนนเส้นทางต่าง ๆ นอกเหนือจากทางภาครัฐให้การช่วยเหลือก่อนหน้านั้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น