จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพท้องถิ่นในการบูรณาการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว

วันนี้ (20 ก.ย. 63) ที่ ห้องประชุมลีลาวดี ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพท้องถิ่นในการบูรณา การป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อการบริหารจัดการแบบบูรณาการและสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะ แนวทาง และวางแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากทั้ง 25 อำเภอ

ด้วยสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมามีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีสาเหตุหลักเกิดจากการเผาในที่โล่งทั้งพื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า อีกทั้งยังเป็นการเผาเพื่อบุกรุกทำลายป่าไม้ และยังมีเกษตรกรบางพื้นที่ที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว และจะต้องอาศัยการเผา ในการเตรียมพื้นที่สำหรับฤดูกาลต่อไป นอกจากนี้ยังมีการเผาขยะบริเวณชานเมืองและในตัวเมือง รวมถึงมลพิษจากการคมนาคม ขนส่ง การก่อสร้าง ฯลฯ ทำให้ยากต่อการควบคุมมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวัน จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ขึ้น โดยในช่วงเช้าจะเป็นการเสวนาหัวข้อ “Line Chatbot” เพื่อเสริมประสิทธิภาพการควบคุมไฟป่า การจัดทำแผนการป้องกันไฟป่า และหมอกควัน โดยใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ และการเบิกจ่ายงบประมาณของท้องถิ่นตามอำนาจของ พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของท้องถิ่น จากนั้นในช่วงบ่ายจะเป็นการแบ่งกลุ่ม ซ้อมแผนปฏิบัติการบนโต๊ะ หรือ Tabletop Exercisc (TTX) เพื่อเป็นการสาธิตการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควัน หากเกิดเหตุขึ้นในปีถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานทุกภาคส่วนได้ดำเนินการอย่างเต็มกำลังความสมารถ ในการแก้ไขปัญหาภายใต้กลไกของพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการอำนวยการสั่งการโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ตามระบบ Single Command โดยให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเข้มข้น และติดตามสถานการณ์วางแนวทางการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ ทั้งการลาดตระเวน ป้องปราม การตรวจหาไฟป้า การระดมสรรพกำลังเครื่องมือต่าง ๆ โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด การสร้าความข้าใจ และสร้างการรับรู้แบบมีส่วนร่วมจากประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ของจังหวัด ตามผลการปฏิบัติที่ปรากฏในปีที่ผ่านมายังพบว่ายังไม่สำเร็จเท่าที่ควร จึงหวังว่า การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางการบริหารจัดการแบบบูรณาการ และเกิดภาคีครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินงานป้องก้แก้ไปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างยั่งยืนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น