นักดาราศาสตร์ ชี้หินที่ อ.แม่แจ่ม ไม่ใช่อุกาบาต แต่เป็นหินภูเขาไฟ

นักดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชี้หินที่ชาวบ้าน ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบไม่ใช่อุกาบาต แต่เป็นหินภูเขาไฟ เบื้องต้นสามารถทดสอบได้ง่าย ๆ ลองใช้แม่เหล็กไปทดสอบและแม่เหล็กดูดติด ก็มีโอกาสเป็นอุกาบาตได้ เพราะอุกาบาตส่วนใหญ่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนผสม ส่วนที่ชาวบ้านบอกว่าพบเห็นแสงไฟเหมือนดาวตกในคืนดังกล่าว นักดาราศาสตร์ เปิดเผยว่าทุกคืน จะมีอุกาบาตหรือวัตถุท้องฟ้าที่มาจากดาวเคราะห์น้อย หรือ ดาวหาง มาเสียดสีชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นไฟร์บอล หรือ ดาวตก ซึ่งเกิดขึ้นทุกคืน

อ่านข่าวก่่อนหน้า : ชาวแม่แจ่ม แห่เก็บหินประหลาดคล้ายลูกอุกาบาต

ความคืบหน้ากรณีที่ชาว อ.แม่แจ่ม พากันแตกตื่นเข้าป่าไปขุดหาก้อนหิน ที่เชื่อว่าเป็นอุกกาบาต ตกลงมาจากท้องฟ้า ในพื้นที่ป่าชุมชม ต.แม่ศึก เมื่อคืนวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. ให้คำตอบเรื่องนี้ว่า จากการตรวจสอบภาพก้อนหินดังกล่าว ประกอบกับข้อมูลที่ชาวบ้านบอกเล่า ดูแล้วไม่ใช่หินอุกาบาต เพราะอุกาบาตจะไม่มีลักษณะเป็นรูพรุน แต่ลักษณะน่าจะเป็นหินอัคนีพุ หรือ หินภูเขาไฟ ที่จะมีลักษณะเฉพาะตัว ก็คือมีรูพรุนที่มาจากฟองอากาศของลาวาก่อนแข็งตัว ซึ่งหินภูเขาไฟสามารถพบได้ตามพื้นที่ของภูเขาไฟทั่วไป ส่วนการตรวจสอบว่าหินหรือวัตถุต่าง ๆ มีโอกาสเป็นอุกาบาตหรือไม่ สามารถตรวจสอบจากพื้นผิวหรือลักษณะเบื้องต้น หากมีรอยเกี่ยวกับการเผาไหม้ รอบบุบ รอยยุบ รวมทั้งหากล่องใช้แม่เหล็กไปทดสอบ และแม่เหล็กดูดติดก็มีโอกาสเป็นอุกาบาตได้ เพราะอุกาบาตส่วนใหญ่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนผสม

ส่วนที่ชาวบ้านบอกว่าพบเห็นแสงไฟเหมือนดาวตกในคืนดังกล่าว นายศุภฤกษ์ อธิบายว่า ในทุกคืนจะมีอุกาบาตหรือวัตถุท้องฟ้าที่มาจากดาวเคราะห์น้อย หรือ ดาวหาง มาเสียดสีชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นไฟร์บอล หรือ ดาวตก ซึ่งเกิดขึ้นทุกคืน แสงที่มองเห็นจะอยู่สูงจากท้องฟ้าหลายร้อยกิโลเมตร การที่ชาวบ้านอาจพบเห็นแสงไฟ ประกอบกับวัตถุที่พบ อาจเกิดจากความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอุกาบาต

ร่วมแสดงความคิดเห็น