จับหนุ่มแสบ ย่องเข้าวัดขโมยพระพุทธรูปประจำวันเกิดไปซุกซ่อนในป่า หวังเอาไปขายหาเงิน แต่สุดท้ายไม่รอด

วันที่ 29 ก.ย.63 รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรพงษ์ บุญยืน ผกก.สภ.สันทราย นำโดย พ.ต.ท.พูนทรัพย์ รวมสุข รอง ผกก.สส. สภ.สันทราย , พ.ต.ต.วรรณศักดิ์ จริยา สว.สส.สภ.สันทราย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายอัครพนธ์ หรือ นัท ขนบดี อายุ 22 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปหรือวัตถุในทางศาสนาอันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนและได้กระทำในวัด สำนักสงฆ์สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาโบราณสถานอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า ในเวลากลางคืน และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” พร้อมของกลาง พระพุทธรูปปางรำพึง(พระประจำวันศุกร์) ขนาดฐานกว้าง 10 นิ้ว สูง 30 นิ้ว , พระพุทธรูปปางนาคปรก(พระประจำวันเสาร์) ขนาดฐานกว้าง 12 นิ้ว สูง 19 นิ้ว , พระพุทธรูปปางลีลา(พระประจำวันจันทร์) ขนาดฐานกว้าง 7 นิ้ว สูง 24 นิ้ว และ พระพุทธรูปปางถวายเนตร(พระประจำวันอาทิตย์) ขนาดฐานกว้าง 5 นิ้ว สูง 23 นิ้ว

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ได้มีพระครูประหยัด เก่งกาจ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสันคะยอม ม.8 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้สีคนร้ายขโมยพระพุทธรูปประจำวันเกิดจำนวน 8 องค์ ไปจากในวัดที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นชายวัยรุ่น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุนั้นคือ นายอัครพนธ์ หรือ นัท และทราบว่าได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการติดตามจนพบผู้ต้องหาขณะอยู่ภายในบ้านพัก และเข้าทำการสอบถาม จนกระทั่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เป็นคนก่อเหตุจริง โดยหวังจะนำพระพุทธรูปทั้งหมดไปขายเอาเงินมาใช้ และได้นำของกลางทั้งหมดไปซุกซ่อนไว้จำนวน 4 องค์ บริเวณที่รกร้างว่างปล่าว ภายในหมู่บ้านพิมุกข์ 1 ม.7 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบก็พบของกลางทั้งหมดถูกซุกซ่อนไว้ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่ง พงส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น