แจก 1 พันบาท ให้อาสาเกษตรหมู่บ้าน ด้านเงินช่วยชาวสวนยาง 3-5 พัน-ลำไยไร่ละ 2 พัน จะทยอยโอนเข้าบัญชี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัยศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร ในช่วงโควิด-19 ในระหว่างเปิดงานเวทีพัฒนาเครือข่าย และศักยภาพอาสาสมัครเกษตรระดับเขต ว่าช่วงสถานการณ์โควิด-19 นั้นบทบาทของอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ทั่วประเทศกว่า 75,155 คนนั้น

” เป็นกลุ่มผู้ที่เสียสละไม่มีค่าตอบแทนใด ๆ ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการดำเนินงานอาสาสมัครเกษตร เสนอค่าตอบแทน (ค่าป่วยการ) และได้ประกาศระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการบริหารงานอาสาสมัครเกษตร เมื่อ 21 ก.ย. 2563 เพื่อเสนอ ครม.สนับสนุนค่าตอบแทน (ค่าป่วยการ) ให้เดือนละ 1,000 บาท เป็นการสร้างขวัญ สร้างกำลังใจต่อไป “

ด้านกรมส่งเสริมการเกษตร ระบุว่าที่ผ่าน ๆ มา มีการอนุมัติงบช่วยเหลือผู้ปลูกลำไย ไร่ละ 2 พันบาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ จากผลกระทบด้านสภาพอากาศแปรปรวน จนผลผลิตไม่ได้คุณภาพ รวมทั้งเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ชาวสวนลำไยได้รับความเดือดร้อน คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ประจำปี 2563โดยอนุมัติวงเงิน 3,400 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ

สำหรับเงื่อนไขการรับแจ้งยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องเป็นหัวหน้าครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกลำไย กับกรมส่งเสริมการเกษตรภายใน 15 กันยายน 2563 กรณีเคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ก่อนหน้านี้ ขอให้แจ้งปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน การจ่ายเงินให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรฯ จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งดำเนินการตามกรอบระยะเวลาภายในเดือนธันวาคม 2563 นี้

” กลุ่มเกษตรกรที่อยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ ผู้ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องสถานะ และเลขที่บัญชีเมื่อได้รับข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงเกษตรฯ แล้ว ธ.ก.ส. จะดำเนินการทยอยโอนเงินทันที
กลุ่มที่โอนไม่ได้เนื่องจากไม่พบบัญชีเงินฝาก หรือบัญชีไม่ถูกต้อง 165,769 ราย มีการตรวจสอบบัญชี 148,702 ราย และอยู่ระหว่างส่งคืนข้อมูลให้ ตรวจสอบ 224,331 ราย (ตรวจสอบสถานะ 132,905 ราย และเป็นข้าราชการ 91,426 ราย) “

ด้านการยางแห่งประเทศไทย แจ้งกรณีมาตรการช่วยเกษตรกรชาวสวนยาง กรณีได้รับผลกระทบจากมรสุมพายุโนอึลและกรณีเงินเยียวยาเกษตรกร สามารถตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยาเกษตรกร 3,000 บาท และ 15,000 บาท
” เงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง นั้นจะเน้นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า เช่น พื้นที่ปลูกต้นยางพาราเสียหายไม่น้อยกว่า 20 ต้นต่อไร่ การยางฯ เยียวยารายละไม่เกิน 3,000 บาท ส่วนเงินเยียวยาเกษตรกร 15,000 บาท ความคืบหน้าล่าสุด ผู้ได้สิทธิรับเงินเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน มีกว่า 21,662 ราย แต่ยังไม่สามารถโอนเงินได้ เนื่องจากยังไม่แจ้งเลขที่บัญชีในระบบ ธ.ก.ส จะเปิดรับจนถึง 30 กันยายน 2563 นี้เท่านั้น หากพ้นกำหนดนี้ก็จะไม่ได้รับ”

ทั้งนี้อาสาสมัครเกษตร ในพื้นที่เชียงใหม่ อธิบายว่า มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐฯไม่ว่าจะเป็น เงิน 2 พัน ให้ชาวสวนลำไย หรือชาวสวนยางที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนอึล เบื้องต้นเกษตรกร ชาวสวน ชาวไร่ จะทราบดีว่า ตนมีสิทธิอะไรบ้าง

” บรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน, อกม. หรือแม้แต่สำนักงานเกษตร ในพื้นที่จะประชาสัมพันธ์ แจ้งรายละเอียดมาตรการต่าง ๆ ตลอด พร้อมเอกสารหลักฐาน ช่องทางการลงทะเบียนสิทธิรับเงินทุกขั้นตอน จนถึงการตรวจสอบผลการโอนเงินจาก ธนาคาร ธ.ก.ส. ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแนะนำจนได้รับข้อความได้รับสิทธิได้รับโอนเงิน ปัญหาที่การ ทวงถามเงินช่วยเหลือ หรือนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อสังคม คือกลุ่มที่ไม่เข้าใจหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ซึ่งสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่เกษตรในพื้นที่, อกม., หรือแม้แต่ผู้นำชุมชน, เจ้าหน้า ธกส. สาขาใกล้บ้านได้  จริง ๆ แล้ว ไม่ควรไปสร้างกระแส หรือเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อน หากเกษตรกรมีสิทธิเข้าเงื่อนไข ต้องได้เงินช่วยเหลือตามมาตรการที่อนุมัติทั้งนั้น ที่ล่าช้า มีขั้นตอนดำเนินการ มีการตรวจสอบของหน่วยงาน ที่บางส่วนอยู่ในสถานะปรับปรุงข้อมูล จากนั้นก็จะแจ้งว่ามีปัญหา ได้หรือไม่ได้เพราะสาเหตุใด กลุ่มที่รับทราบตัวเลขวงเงินช่วยเหลือที่ประกาศแจ้งในชุมชน หมู่บ้าน ตำบลแล้ว ได้แน่นอน “

ร่วมแสดงความคิดเห็น