สกัดจับคาชายแดน ! รวบกระบะขน 19 คนไทยทำงานในพม่า หนีคัดกรอง “โควิด-19”

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 เวลา 05.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 นำกำลังพลร่วมกับ นายชัยพฤกติ์ เชียรธารรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3, ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด, กำนันตำบลแม่ตาว , ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านแม่ตาว สนธิกำลังกับ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สอด, ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองตาก, ตำรวจตระเวนชายแดน 346 แม่สอด ร่วมกันวางกำลังดักซุ่มในจุดล่อแหลม พร้อมตั้งจุดเคลื่อนที่ และเฝ้าตรวจ บนถนนสายแม่สอด – บ้านไร่ดอนชัย ติดริมแม่น้ำเมย แนวชายแดนไทย – เมียนมา เขตอำเภอแม่สอด  เพื่อสกัดกั้นการลักลอบข้ามชายแดนผิดกฎหมาย

โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 เวลา 17.00 น. กองร้อยเคลื่อนที่เร็วกำลังนเรศวร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่สอด และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ทำการเข้าตรวจช่องทางท่าข้ามธรรมชาติบ้านดอนไชย หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ภายหลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีกลุ่มบุคคลลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ต่อมาได้มีกลุ่มบุคคลโดยสารเรือยนต์ จากฝั่งประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้ามายังฝั่งประเทศไทย และโดยสารรถยนต์เพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสกัดกั้นรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว บริเวณภายในหมู่บ้านดอนไชย หมู่ 6 ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จากการตรวจค้นพบภายในรถพบบุคคลเป็นชาวไทย จำนวน 19 คน แบ่งเป็นชาย 10 คน, หญิง 9 คน โดยสารภายในรถ จากการสอบถามให้การว่า มีความพยายามจะลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจริง

และ ขณะที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทั้งคืน แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเพิ่มการเดินเท้าลาดตระเวนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัว และพบแสงไฟจากรถยนต์ไม่ต่ำกว่า 2 คัน ขับอยู่ใกล้จุดล่อแหลมริมแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการเกษตรและลับสายตาท้ายหมู่บ้านแม่ตาวดอนชัย เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเตรียมตัวเข้าจู่โจมตรวจสอบ กระทั่งพบรถยนต์กระบะสองคันขับออกจากป่ารกทึบท้ายหมู่บ้านมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและสามารถสกัดรถยนต์ทั้งสองคันได้ที่บริเวณถนนสายบ้านไร่ริมเมย เส้นทางลัดมุ่งหน้าเข้าอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบตัว นายชลากรณ์ ซิง อายุ 44 ปี และนายกรกช ศีรีรมย์ อายุ 23 ปี เป็นคนขับรถยนต์ทั้งสองคัน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวลงจากรถ แต่พอเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นภายในรถยนต์ทั้งสองคันที่ปิดล็อกอำพรางอย่างดี พบกลุ่มคนไทยทั้งชายและหญิงซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน จำนวน 19 คน ทุกคนนั่งอัดแน่นหลบซ่อนตัวอยู่ในรถยนต์จนแน่นเป็นปลากระป๋อง พร้อมกระเป๋าสัมภาระเต็มคันรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดลงจากรถ เพื่อเข้าตรวจวัดไข้และส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลทั้งหมดไม่พบไข้สูง ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปสอบสวนขยายผล และส่งตัวเข้าสถานกักกันของจังหวัดต่อไป

โดยหนึ่งในกลุ่มคนไทยที่ลักลอบข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมาย ให้การเบื้องต้นว่า กลุ่มของตนเองได้ข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านอำเภอแม่สอด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีนายหน้าช่วยเหลือนำตัวเข้าไปทำงานในบ่อนพนันในฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งมีรายได้ดี จนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาจังหวัดเมียวดี มีการระบาดของโควิด-19 และมีผู้ป่วยเสียชีวิต ทำให้ทางการเมียวดีมีการประกาศกฎเหล็ก และมีการปิดหมู่บ้านสำคัญหลายแห่ง และหลายรัฐมียอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกของตนเองมีความรู้สึกกลัวจะติดเชื้อโควิด-19 จึงตัดสินใจหนีตายจากฝั่งเมียวดีจะกลับมาประเทศไทย โดยลักลอบมาทางเรือหางยาวของกลุ่มขบวนการทั้งสองประเทศให้การช่วยเหลือ มีการเสียค่าใช้จ่ายนำพาเข้าประเทศไทย ในราคาแตกต่างกันจนมาถูกจับกุม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวคนขับรถทั้งสองคนดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่สถานีตำรวจภูธรแม่สอด ส่วนคนไทยทั้งหมดถูกนำตัวดำเนินการส่งกักตัวในสถานที่กักตัวของจังหวัดตาก ส่วนเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรอย่างเข้มข้นขั้นสูงสุดในการกดดันตลอดแนวชายแดนจังหวัดตาก หลังทางการข่าวมีรายงานว่าในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงมีกลุ่มผู้ที่จะลักลอบข้ามแนวชายแดนอีกหลายกลุ่ม ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องทำงานอย่างหนัก ในการออกตรวจลาดตระเวนแนวชายแดนจังหวัดตาก ตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมแสดงความคิดเห็น