(มีคลิป) แก๊งค้ายาเปลี่ยนเส้นทาง ใช้เยาวชนชาวเขาลำเลียง ศุลกากรมีเครื่อง X-ray พร้อม 32 เครื่องทั่วประเทศ

เวลา 10.00 น.วันที่ 6 ต.ค. 63 ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5 ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พ.ต.อ.มานพ เสนากุล รอง ผบก.ภ.จ.เชียงราย นายพีรกานต์ บูรณากาญจน์ นายด่านศุลกากรเชียงของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 ทหารศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.บส.ชน.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาเสพติดยาบ้า จำนวน 864,000 เม็ด

โดยการจับกุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 6 ต.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บุญเรือง และ ร้อย.ทพ.3502 ศป.บส.ชน. ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัดบริเวณสามแยก บ.แก่นใต้ ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ หลังได้รับรายงานว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน ด้าน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น อ.เทิง จนกระทั่งพบรถยนต์ กระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีน้ำเงิน ทะเบียน ผต 6576 เชียงราย รถกระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีบรอนทอง ทะเบียน บล. 554 เชียงราย และ รถกระบะเชฟโรเลต แคป สีบรอนทอง ทะเบียน บต 1560 พะเยา ขับขี่ตามผ่านเข้ามาที่ด่านตรวจ

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาน เพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้นำรถทั้งหมด ไปตรวจสอบด้วยเครื่อง X-Ray ที่ด่านศุลกากร อ.เชียงของ และพบว่า รถกระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีน้ำเงิน ทะเบียน ผต 6576 เชียงราย ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 78 มัด รวมประมาณ 460,000 เม็ด โดยมี นายนรินทร์ โรจนอิสริยะ เป็นคนขับ และ รถกระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีบรอนทอง ทะเบียน บล. 554 เชียงราย ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 69 มัด รวมประมาณ 404,000 เม็ด มีนายวุฒิเดช แซ่เล่า เป็นคนขับ โดยทั้ง 2 คนเป็นชาว บ.ม้งเก้าหลัง หมู่ที่ 9 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

ส่วนในรถอีกคันไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด แต่พบว่าเกี่ยวโยงกันและเป็นรถดูต้นทาง โดยคนขับรถคือ นายธีรเทพ โรจนคีรีสันติ ชาวบ้านม้งเก้าหลัง หมู่ที่ 9 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เช่นกัน หลังจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามียาเสพติดติดเป็นยาบ้าทั้งหมด รวม 864,000 เม็ด จึงได้นำตัวของกลางทั้งหมดส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บุญเรือง ดำเนินการตามกฎหมาย และได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จ.เชียงราย นำกำลังไปขยายผลที่บ้านของผู้ต้องหา

พล.ต.ต.วันชัย กล่าวว่าสถานการณ์ปัจจุบันพบว่าขบวนการค้ายาเสพติด ได้พยายามนำเข้ามาในปริมาณที่มากขึ้น ครั้งละ 6-7 ล้านเม็ด โดยในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาพบว่าในพื้นที่ ภ.5 ตรวจยึดของกลางในปริมาณ 6 ล้านเม็ดขึ้นไป ได้ถึง 2 ครั้ง และยังมีหลุดไปถึง จ.พระนครศรีอยุธยา หลัก 3 ล้านเม็ด พร้อมเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่ง สำหรับกรณีที่จับกุมที่ อ.เชียงของ ครั้งนี้คาดว่าสาเหตุที่ขนในระดับไม่ถึง 1 ล้านเม็ด เพราะจำกัดด้วยขนาดบรรทุกที่ใช้การดัดแปลงรถ แต่หากขนไปกับพืชผลทางการเกษตร จะแอบปะปนไปในจำนวนมากกว่านี้ ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่จึงได้หันมาบูรณาการกันหลายหน่วยงาน โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ตรวจสอบเพื่อสกัดกั้นให้ถึงที่สุด

“ขณะนี้ขบวนการค้ายาเสตพิด ได้หันมาใช้กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง และมีอายุน้อยขนมากขึ้น เนื่องจากคนรุ่นเก่าๆ ได้ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้เป็นจำนวนมาก จึงมีการฝึกฝนคนรุ่นใหม่ให้ทำการขนแทน ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนอายุราวๆ 26-27 ปีได้มากขึ้น ปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่จึงมีการใช้ระบบตรวจหาเอกลักษณ์บุคคลหรือดีเอ็นเอ เข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยแล้ว รวมทั้งจะประสานกับด่านศุลกากร เพื่อนำเครื่องมือออกมาช่วยตรวจสอบ โดยเฉพาะกรณีนี้พบว่าผู้ต้องหามีความนิ่งอย่างมาก เพราะเคยขนของกลางมาแล้วหลายครั้ง เมื่อตรวจดูภายนอกแล้วไม่พบของกลาง และเจ้าหน้าที่พยายามสอบถามก็ไม่แสดงท่าทีพิรุธ จึงต้องใช้เครื่องเอ็กซเรย์จากด่านศุลกากรเชียงของ ในการตรวจค้นหา” รอง ผบช.ภ.5 กล่าว

ด้านนายพีรกานต์ บูรณากาญจน์ นายด่านศุลกากรเชียงของ กล่าวว่าปัจจุบันด่านศุลกากรมีเครื่องมือเอ็กซเรย์ดังกล่าว จำนวน 32 เครื่องทั่วประเทศ โดยประจำอยู่ตามด่านพรมแดนต่างๆ จึงพร้อมจะทำการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดอย่างเต็มที่

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น