กรมอนามัย หวั่นฝนตกหนัก ทำสุขภาพแย่ แนะพกร่ม เลี่ยงลุยน้ำขัง กินอาหารมีประโยชน์

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพของประชาชนในช่วงฝนตกติดต่อกันหลายวัน แนะประชาชนพกร่ม เสื้อกันฝน ดื่มน้ำเยอะ ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคไข้หวัด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการลุยในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มากับน้ำ และควรจัดการสภาพแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและสัตว์พิษ 

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สภาพอากาศของประเทศไทยในช่วงนี้ มีฝนตกหนักหรือมีฝนตกตลอดทั้งวัน และจากการพยากรณ์อากาศคาดว่าในหลาย ๆ พื้นที่ ยังคงตกต่อเนื่องอีกหลายวัน หากดูแลสุขภาพตนเองไม่ดี อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เป็นไข้หวัด ไอ เจ็บคอ โดยเฉพาะคนที่ร่างกายอ่อนแออาจล้มป่วยได้ง่าย จึงแนะนำให้พกร่ม เสื้อกันฝน หรือหมวก ป้องกันตัวเองไม่ให้เปียกฝน โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ ถ้าเปียกฝนควรใช้ผ้าขนหนูซับผมให้แห้งให้ได้มากที่สุด และเตรียมเสื้อผ้าไว้ผลัดเปลี่ยนในกรณีที่จำเป็นต้องลุยฝน เพราะการอยู่ในสภาพเปียกชื้น อาจทำให้เกิดอาการปอดบวมแทรกซ้อนได้ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วมขัง เพราะน้ำที่ท่วมขังนั้นมีเชื้อโรคอยู่มาก อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น น้ำกัดเท้า ฉี่หนู เป็นต้น จึงควรล้างมือและเท้าให้สะอาดทุกครั้งเมื่อเข้าบ้าน หรือก่อนกินอาหาร หลังเข้าห้องส้วม และที่สำคัญต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากพบว่าหน้ากากมีความชื้นให้รีบเปลี่ยนใหม่ และควรมีหน้ากากสำรองไว้ตลอดเวลา​“ทั้งนี้ เพื่อรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ หรือแนะนำให้กินอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ข่า ขิง กระเทียม และขมิ้น เพราะสมุนไพรเหล่านี้มีคุณสมบัติเสริม ระบบภูมิคุ้มกันต้านโรคหวัด ส่วนผลไม้ให้เน้นกินผลไม้รสเปรี้ยว หรือผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ประเภทส้ม มะนาว เกรปฟรุต ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี มะขามเทศ มะขามป้อม และลูกพลับ จะช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้เป็นปกติ และทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี นอกจากนี้ ในช่วงที่มีฝนตกหนักอาจส่งผลให้บางพื้นที่เป็นหลุม เป็นบ่อ หรือภายในบ้านเกิดน้ำท่วมขัง กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สาเหตุของ โรคไข้เลือดออก รวมถึงเป็นที่อยู่ของสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีพงหญ้าสูงรก มีสวนป่าอยู่ภายในบริเวณบ้าน ควรระมัดระวังอันตรายจากสัตว์มีพิษ เพราะหากไม่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งในบ้านและนอกบ้าน ที่ถูกสุขลักษณะ อาจกลายเป็นแหล่งอาหารและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์มีพิษประเภทงู ตะขาบ ที่มักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ชื้นแฉะและรกทึบ จึงต้องทำความสะอาดบริเวณรอบบ้านให้โล่งเตียนอยู่เสมอ” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น