ชาวชุมชนบ้านดอย เรียกร้อง ทน.เชียงราย ไม่ขอเลื่อนการเลือกตั้งประธานชุมชน หวั่นเป็นเหยื่อการเมืองคนบางกลุ่ม

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านจากชุมชนบ้านดอย หมู่ที่ 3 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย จำนวนกว่า 100 คน ได้พากันเดินทางไปยังเทศบาลนครเชียงราย เพื่อขอเข้าพบ นายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และนายภูวิศ วรรณพฤกษ์ ปลัดเทศบาลนครเชียงราย เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งประธานชุมชนบ้านดอย ตามกำหนดการเดิม คือวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2563 โดยกำหนดการเลือกตั้งดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นภายหลังจาก เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2563 ที่ศาลาประชาคมชุมชนบ้านดอย ได้มีการแจ้งการพ้นสภาพของ นายพิทักษ์พงศ์ หมื่อแล ประธานชุมชนคนเดิม พร้อมกับการกำหนดการเลือกตั้งใหม่ขึ้น

สถานการณ์ที่บานปลายนำไปสู่การตบเท้าเข้าพบผู้บริหาร ของเทศบาลนครเชียงรายครั้งนี้ เป็นผลมาจากความพยายามของทางเทศบาลฯ ที่จะเลื่อนการเลือกตั้งอย่างไม่มีกำหนด ทั้งที่ ได้มีการรับสมัครผู้สนใจลงเลือกตั้งประธานชุมชนไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีผู้สมัครจำนวน 5 ราย ได้แก่ นายสมหมาย โชครัตนสกุล นายสมบูรณ์ ต้นพระคุณ นายวิเชียร จักสาร นายวีระศักดิ์ ศักภูไท นายสุเทพ พรมมิ ซึ่งผู้สมัครทั้งหมดได้มีการลงพื้นที่หาเสียงกันมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ทางเทศบาลนครเชียงราย ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปยังชุมชนอีกครั้ง แต่การเจรจาไม่เป็นผล แม้มีความพยายามในการกล่าวอ้างถึงระเบียบกฎหมาย ว่าด้วยการเลือกตั้งทั่วไป แต่ชาวบ้านก็ยืนยันว่าตรวจสอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ปรากฎว่า ในระดับชุมชนเป็นกิจการภายในของหน่วยงานเทศบาลท้องที่ ไม่ได้มีส่วนกับระเบียบของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าง อบจ. เทศบาล และ อบต.แต่อย่างใด

ชุมชนบ้านดอย เป็นชุมชนใหญ่ใกล้เมือง มีประชาชนที่อาศัยอยู่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ปัญหามากมายภายในชุมชนเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน จนส่งผลให้กรรมการชุมชนส่วนใหญ่ ต้องรวมตัวกันยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากจากไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้นำได้ โดยที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน และพยายามกดดันผู้นำมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ที่มีการวางแผนรับมือในระดับที่ต่ำมาก ทั้งที่เป็นนโยบายสำคัญระดับชาติ นำไปสู่ความหวาดผวาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในชุมชน อีกทั้ง การติดต่อสื่อสารกับผู้นำที่เข้าพบยาก ชาวบ้านมีความเสียหายอันเนื่องจากการรับรองเอกสารที่ล่าช้ามาโดยตลอด และด้วยความรื้อรังของปัญหา การร้องเรียนไปยังเทศบาลนครเชียงราย จึงมีความเข้มข้นขึ้นมาตามลำดับ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว

ส่วนผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ระบุว่า ความเสียหายของการเลื่อนการเลือกตั้งอย่างไม่มีกำหนด ไม่ได้กระทบต่อผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่ยังจะทำให้ชุมชนไม่สามารถขับเคลื่อนในการพัฒนาได้ ชาวบ้านยังคงจะได้รับความเดือดร้อนยาวนานต่อไปอีก และชาวบ้านในชุมชนเอง ก็ไม่อยากตกอยู่วังวนทางการเมือง เพียงเพื่อหมากเกมผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น