สสส.ร่วมกับภาคเอกชน สถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเสวนาโรงเรียนต้นแบบห้องเรียนสู้ฝุ่น แก้วิกฤตปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ที่ จ.เชียงราย

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการ “สร้างโรงเรียนต้นแบบในโรงเรียนใ นการรับมือกับฝุ่นในพื้นที่วิกฤต” หรือห้องเรียนสู้ฝุ่น เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่โรงแรมเฮอริเทจ อำเภอเมืองเชียงราย โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา และตัวแทนครู ตลอดจนตัวแทนนักเรียนของโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงต่อการเผา จากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แพร่ และ จังหวัดแม่ฮ่องสอน กว่า 70 คน เข้าร่วมโครงการ ในระหว่างวันที่ 16-17 ตุลาคม 2563

นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ระหว่างจังหวัดเชียงราย และสถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ สสส. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในภาคเหนือ เพื่อเป็นการรับมือกับฝุ่นในพื้นที่วิกฤต มีที่มาจากปัญหาผลกระทบด้านสุขภาพในกลุ่มเด็ก และเยาวชน อันเกิดการเผาในพื้นที่โล่ง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในพื้นที่ เสี่ยงต่อการเกิดการเผาในพื้นที่ป่า โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แพร่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่พบการเกิด Hotspot และค่า PM 2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี


ผศ.ดร.นิออน สิริมงคลเลิศกุล ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชียงราย ในฐานะประธานโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่น กล่าวว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่าปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควัน ถือเป็นภัยที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งในพื้นที่ชุมชนเมือง และพื้นที่สูงห่างไกล ผู้ที่ได้ผลกระทบหนักคือกลุ่มผู้สูงอายุและเด็ก ที่เป็นกลุ่มนักเรียนตามสถาบันการศึกษา ๆ ดังนั้น ทางเครือข่ายจึงร่วมกันจัดโครงการนี้ขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คัดเลือกโรงเรียนที่ประสบภัยและอยู่ในพื้นที่จำนวน 30 โรงเรียน มาเป็นโรงเรียนต้นแบบเพื่อนำร่อง

สำหรับห้องเรียนสู้ฝุ่นนี้ ไม่ได้หมายถึงห้องเรียนที่ปลอดจากฝุ่น แต่เป็นกระบวนการจัดองค์ความรู้เกี่ยวกับพิษภัย การบริหารจัดการ และเครื่องไม้เครื่องมือเกี่ยวกับการจัดการปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้น ถ่ายทอดให้กับคณะครูและนักเรียนที่ได้รับเลือกไปจัดกระบวนการสอนและการเรียนถึง 10 แผน เพื่อที่จะนำองค์ความรู้เหล่านี้ ไปถ่ายทอดให้กับเด็กนักเรียนและผู้ปกครอง ให้เข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา และสามารถเอาตัวรอดจากปัญหาฝุ่นละออง ทั้งในช่วงประสบเหตุ หรือช่วงที่มีการป้องกันหรือพื้นฟู ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ก็จะมีการขยายผลไปยังโรงเรียนอื่น ๆ ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน หรือทั้งภาคเหนือ 17 จังหวัด ในอนาคต

ทางด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ห้องเรียนสู่ฝุ่นจะสามารถขับเคลื่อนกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องของฝุ่นละอองหมอกควันอย่างได้ผล โดยมีการสนับสนุนส่งเสริมจากทางจังหวัดที่จะมีมาตรการอย่างเข้มข้น หากระดับพื้นที่มีความรู้มีความเข้าใจถึงผลกระทบ และก่อเกิดของปัญหาปัญหาฝุ่นละออง ก็จะเบาบาง หรือหมดไปได้ ซึ่งปีนี้จังหวัดเชียงราย ก็ยังจะมีการดำเนินการอย่างเข้มข้น ทั้งเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว จึงเน้นในเรื่องการรณรงค์และขอความร่วมมือจากประชาชนมากกว่า ให้ช่วยกันตระหนัก โดยจะเริ่มตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง มีการขอความร่วมมืองดเผาทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม นี้เป็นต้นไป ซึ่งจากปี 2563 ที่ผ่านมา ถือว่าการเกิดไฟป่าลดน้อยลงไปมากกว่า ร้อยละ 50 ซึ่งต้นเหตุการเผาก็ยังมาจากฝีมือมนุษย์ที่จุดไฟเผาเพียงคนเดียว แต่ต้องนำคนไปดับไฟเป็นหลายร้อยคน มีการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินและงบประมาณ ดังนั้น ปีนี้จึงอยากขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายให้ร่วมมือกันป้องกัน และแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่ก่อน ส่วนประเทศเพื่อนบ้านจะต้องเร่งเจรจา เพื่อให้เกิดการดำเนินการร่วมกันและควบคู่กันต่อไปด้วย

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น