คุมเข้มเที่ยวดอยหลวงเชียงดาว นักท่องเที่ยวแห่ยื่นคำร้องขออนุญาตเข้าพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้แจ้งอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบริการ สำหรับผู้ที่
สนใจจะเดินทางเข้ามาศึกษาธรรมชาติ โดยผู้ใหญ่ 20บาท/คน เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท/คน ค่ามัดจำขยะ 500 บาท/คน ค่ากางเต๊นท์หลังละ 30 บาท/คืน/คน (ถ้าเชาคิด 300 บาท/หลัง, ค่ามัดจำอุปกรณ์พักแรม 500 บาท ) นอกจากนั้นยังมีค่าบริการจากชุมชน ค่ารถรับจ้างไปกลับ 480 บาท/คน (โดยสารไม่เกิน 5 คน ) ค่าบริการนำทาง 120 บาท /คน นักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คนต่อกรุ๊ป ค่าลูกหาบไปกลับ 200 บาท/คน ขนสัมภาระไม่เกิน 20 กก. เป็นต้น

ทั้งนี้มีการเปิดเผยตารางผู้จองแต่ละวัน ช่วง พ.ย. – ธ.ค.2563 – ม.ค. – ก.พ.2564 ซึ่งมีการยื่นคำร้องขออนุญาตเข้า
พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ซึ่งยื่นคำร้องด้วยตนเองผ่านอีเมล์และ เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับเพื่อสอบถามเปลี่ยนวันหรือสำรองวัน เมื่อได้รับอนุญาตเข้าศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาวเรียบร้อยแล้ว สามารถติดต่อเพื่อแจ้งรับบริการต่าง ๆ ได้ โทร 053-456623 โดยชำระค่าใช้จ่าย (ค่าธรรมเนียมและค่าบริการอื่น ๆ ) ได้ ณ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัต์ป่าเชียงดาวในวันที่ขึ้นศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว

อย่างไรก็ตามหลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูล การเปิดจองเข้าเที่ยวชมธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว ได้แล้ว หลังจากที่
มีคำสั่ง ห้ามเข้า ระยะหนึ่งในช่วง 1 ก.พ. 2563 – 30 เม.ย. 2563 เพราะเป็นช่วงไฟป่าและต้องการให้ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟูสภาพ มีประชาชน นักเดินทางจำนวนมาก แสดงความคิดเห็น ผ่านสื่อสังคม เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า

“ถ้าจะเก็บแพงขนาดนี้ปิดไปเถอะ อุทยานไม่ต้องเปิดให้เที่ยว แค่คืนเดียว จะเก็บแทบเอารวยเลย ในประเทศไทยมีที่ให้เที่ยวอีกเยอะ ใครจะไปก็ไป”

“เหมือนสถานที่เอกชนเลยครับมีหลายอย่างที่เพิ่มขึ้นเกินเหตุ อีกอย่างระยะเวลาค้างคืนเดียว ถ้าจะกอบโกยด้วย
วิธีนี้ ใครรับได้ก็ไป ขอบายครับ ป่าในไทยยังมีสวยๆอีกเยอะ ที่เปิดให้ศึกษาธรรมชาติ ไม่ใช่เปิดเพื่อทำเป็นธุรกิจ”

“3 ปีก่อน ยังกะสลัมเต็นท์ นี่ขนาดต้องจอง แต่โควต้าทัวร์ท้องถิ่นโหดมาก ประมาณ 40 กม.กับราคาขาละ 240
บาท ค่อนข้างแพงนะ แล้วทำไมถึงนั่งได้แค่ 5 คนต่อคัน นั่งได้น้อยจัง ใช้รถอะไร รถชุมชนเก็บต่อหัว 480 บาท โหดเกินไปนะ”

ทั้งนี้มีการสอบถามกลุ่มที่พัก โฮมสเตย์ในพื้นที่ ดอยหลวง เชียงดาว จำนวนมาก เกี่ยวกับเงื่อนไข การเดินทางเข้า
ไปพักและการจองห้องพัก เพื่อสัมผัสธรรมชาติ เชิงเขา ดอยหลวง แต่ปรากฎว่า ผู้ประกอบการ ส่วนหนึ่ง ขออนุญาตไม่ตอบคำถามและระบุว่าต้องรอมาตรการจากหน่วยงานในพื้นที่ ถึงแนวทางจัดระเบียบการเดินทางท่องเที่ยวย่านนี้ก่อน เพราะช่วงปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว เมื่อ 1 ก.พ. 2563 – 30 เม.ย. 2563 นั้น ครอบคลุมท้องที่
บ้านนาเลาเก่า, บ้านนาเลาใหม่, บ้านฟ้าสวย, บ้านหนองขะแตะ, บ้านสันป่าเกี๊ยะ ถ้าฝ่าฝืนมีโทษจำปรับหนัก และข้อห้ามที่ว่าผู้ใดยึดถือครอบครอง แผ้วถาง ก่อสร้าง และทำด้วยประการใด ๆ ในพื้นที่ห้าม จะมีโทษจำคุก 4 – 20 ปี ปรับตั้งแต่ 4 แสนบาท – 2ล้านบาท หรือทั้งจำและปรับ ชาวบ้าน ที่ลงทุน เปิดที่พักทำโฮมสเตย์เลยไม่กล้าขยับอะไร ต้องรอให้เขตฯ สั่งการว่า อะไรที่ปฏิบัติได้บ้าง ช่วงฤดูท่องเที่ยว ต.ค. – ธ.คนี้ จะตอบคำถามผ่านเพจ ที่พักแต่ละแห่งยังไม่กล้าตอบรับจองเลย กลัวลูกค้าเข้ามาพักไม่ได้ ยกเว้นกลุ่มที่อยู่นอกพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือในตำบลอื่น ๆ ที่มีแหล่งเที่ยวธรรมชาติเยอะแยะ มองเห็นทิวทัศน์ ดอยหลวงได้ จากหลายมุมใน อ.เชียงดาว ที่รีวิว เปิดจองที่พักกันแล้ว

สำหรับดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่นั้น จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าขึ้นสู่ยอดยอดได้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ของทุกปี จากสถานการณ์ไฟไหม้ช่วงมีนาคม – เมษายน 2562 ส่งผลให้ผืนป่าถูกทำลายกว่า 4 พันไร่ จึงจำต้องปิดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ เป็นยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย รองจากดอยอินทนนท์ และดอยผ้าห่มปก อ.เชียงดาว เป็นหนึ่งในอำเภอของ จ.เชียงใหม่ ต้นกำเนิดแม่น้ำปิง เป็นเมืองเก่าแก่โบราณ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเชียงใหม่ ติดกับประเทศพม่า เป็นอำเภอยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม คือ ดอยหลวงเชียงดาว จะถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกตลอดปี ทั้งฤดูหนาว และฤดูฝน อีกทั้งยังมีสัตว์ป่าหายาก พรรณไม้หลากหลายทัศนียภาพสวยงาม อ.เชียงดาว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีก เช่น น้ำตกศรีสังวาลย์, พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์, ชุมชนท่องเที่ยวต่าง ๆ นักท่องเที่ยวที่จะเข้าพักโฮมสเตย์และมีการจองแล้วล่วงหน้า ควรติดต่อสถานที่พักซึ่งจองไว้ สอบถามรายละเอียด เงื่อนไขต่าง ๆ เพราะการเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าเชียงดาว ในช่วงนี้จะต้องมีการขออนุญาตเข้าไป