กรมอนามัย แนะผู้ประกอบการ ล้างตลาด-ลอกท่อระบายน้ำ ป้องกันน้ำท่วมขัง

​นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงที่มีฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในบริเวณตลาด สร้างความสกปรกทำให้เสี่ยงปนเปื้อนในอาหาร ก่อให้เกิดโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อตามมา ผู้ประกอบการจึงควรล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งมีวิธีการ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ล้างด้วยน้ำและผงซักฟอก เพื่อกำจัดคราบสกปรก แล้วฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนบริเวณบนแผงหรือพื้นทางเดิน แต่หากมีคราบไขมันจับให้ใช้น้ำผสมโซดาไฟราดลงบนพื้นหรือแผงทิ้งไว้นาน 15-30 นาที และใช้แปรงลวดถูเพื่อช่วยในการขจัดคราบไขมัน ขั้นตอนที่ 2 การฆ่าเชื้อโรคโดยใช้น้ำผสมผงปูนคลอรีนใส่ลงในฝักบัวรดน้ำ และลดบริเวณแผง เขียง ทางเดิน ทางระบายน้ำเสียให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น ส่วนบริเวณที่มีกลิ่นคาวให้ใช้ หัวน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้เจือจางราดบริเวณที่มีกลิ่นคาว นอกจากนั้นควรมีการสำรวจท่อระบายน้ำรอบตลาดอยู่เสมอ หากอุดตันหรือสกปรก มีขยะไปสะสมควรทำการลอกท่อระบายน้ำดังกล่าวทันที

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับบริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม อ่างล้างมือ ที่ปัสสาวะและก๊อกน้ำสาธารณะที่ใช้ในตลาดต้องทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาทำความสะอาดและล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อ การแพร่กระจายโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อได้ โดยเฉพาะจุดเสี่ยง ได้แก่ สายฉีดชำระ พื้นห้องส้วม ที่รองนั่งส้วมแบบนั่งราบ ที่กดน้ำ ก๊อกน้ำ และกลอนประตู ที่สามารถติดต่อจากการสัมผัสสิ่งขับถ่ายที่ปนเปื้อนเชื้อโรค จึงต้องมีการ ทำความสะอาด เพื่อลดจุดเสี่ยงของการเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรค ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทำความสะอาดต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง สวมถุงมือยางและผ้ายางกันเปื้อน สวมรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น และหลังจากปฏิบัติงานเสร็จต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทันที

​“ทั้งนี้ ในช่วงการระบาดโรคโควิด 19 กรมอนามัยเน้นย้ำทั้งผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า และผู้ใช้บริการ ให้ยึดปฏิบัติในมาตรการหลักตลอดเวลาคือ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือก่อนและหลังเข้าออกตลาด ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล พร้อมทั้งลงทะเบียนเข้า-ออกตลาด หรือ CHECK-IN และ CHECK-OUT ผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการตลาด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น