มารชินะเจดีย์ วัดสองแผ่นดิน เส้นทางเดินทัพสุดท้าย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วัดฟ้าเวียงอินทร์ อ.เวียงแหง

ตามรอยเส้นทางเดินทัพสุดท้ายของสมเด็จพระนเรศวร ไหว้ “มารชินะเจดีย์” พระเจดีย์เก่าแก่ รูปแบบศิลปกรรมแบบไทยใหญ่กลางขุนเขา เชื่อม 2 แผ่นดินไทยและเมียนมา วัดฟ้าเวียงอินทร์

วัดฟ้าเวียงอินทร์ ตั้งอยู่ที่ บ้านหลักแต่ง หมู่ 1 ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ สังกัดคณะสงฆ์นิกายมหายาน ติดกับบ้านป๋างก้ำก่อ ต.ปางยาง อ.เมืองต๋น เขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา
วัดฟ้าเวียงอินทร์ ตั้งอยู่บนเนินเขาสองลูก เนินเขาลูกหนึ่งที่ตั้งของเจดีย์ทอง ซึ่งอยู่ในฝั่งไทย ส่วนเนินเขาอีกลูกหนึ่งนั้นที่ตั้งของอุโบสถหลังเก่า อยู่ในเขตเมืองปั่น รัฐฉานของเมียนมา วัดฟ้าเวียงอินทร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินมีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ อาณาเขตทิศเหนือจรดชายแดน ไทย – เมียนมา ทิศใต้จรดหมู่บ้านเปียงหลวงใหม่อพยพ ทิศตะวันตกจรดป่าเขา

ภายในบริเวณวัดฟ้าเวียงอินทร์ ประกอบด้วย หอสวดมนต์ เจดีย์ทอง หอระฆัง กุฏิสงฆ์ ศาลา วิหารหลังใหม่ (ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ. 2535) ศาลาจำศีล ศูนย์อบรมเด็กก่อเกณฑ์ของวัดทางฝั่งเมียนมา มีสิ่งก่อสร้าง คือ อุโบสถหลังเก่า โรงนอนพระ และด้านหลังของโรงนอนมีที่พักของทหารเมียนมา ต่อมาเมื่อกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ (S.U.R.A.) โดยการนำของ นายพลโปโมเฮง ผู้นำชาวไต ที่คนไตให้ความเคารพอย่างยิ่ง เป็นผู้ก่อตั้งสภาปฏิวัติชาติไต (TAI REVOLU-TION COUNCIL) ซึ่งได้เข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเข้ามาอยู่ที่เปียงหลวง ประมาณปี พ.ศ.2509 แล้วได้มาพบเห็นซากเจดีย์ จึงเกิดจิตศรัทธาที่จะบูรณะใหม่ เจดีย์ทองวัดฟ้าเวียงอินทร์ หรือที่เรียกว่า “มารชินะเจดีย์” ตามจารึกภาษาไทใหญ่ว่า เมื่อครั้งเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชาไปบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์นั้นได้มีมารผจญ พระองค์จึงทรงใช้บารมี 30 ทัศปราบมารผจญพ่ายแพ้แล้วพระองค์จึงทรงบำเพ็ญเพียรต่อ จนได้บรรลุพระอนุตตระสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันเพ็ญเดือน 6

เจดีย์นั้นสร้างเพื่อความมีโชคมีชัยของผู้ที่ได้มากราบไหว้สักการบูชา จึงเรียกชื่อพระธาตุองค์นี้ว่า “มารชินะเจดีย์” อันน่าจะหมายถึงชนะมาร มีลักษณะศิลปกรรมแบบไทใหญ่ มียอดเรียวแหลม เจดีย์องค์กลางเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างครอบเจดีย์องค์เก่า และมีเจดีย์เล็กๆ เรียงรายอยู่โดยรอบ 6 องค์ ฐานเจดีย์เป็นฐาน 12 เหลี่ยม ความสูงของฐานประมาณ 3 เมตร ใต้ฐานเจดีย์ถูกแบ่งออกเป็นห้องๆ สิ่งสำคัญที่สุดขององค์เจดีย์ทองแห่งนี้ก็คือ ที่ใต้ฐานเจดีย์นี้ มีจารึกพระธาตุมาชินะเจดีย์ ซึ่งเป็นจารึกภาษาไทใหญ่ บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของการสร้างวัด

และการบูรณะซ่อมแซมของการก่อสร้างครั้งแรก วัดนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นหลังปี พ.ศ.2511 ซึ่งเป็นที่เจ้ากองเจิง (พล.อ.โมเฮง ชนะศึก) หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐฉานผู้นำขบวนการกู้ชาติไทใหญ่ มาตั้งถิ่นฐานบริเวณชายแดนไทย

ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์เดินทัพผ่านเมืองแหง เพื่อจะไปตีกรุงอังวะที่ประเทศเมียนมา แต่เกิดทรงประชวรก่อนและสิ้นพระชนม์ที่เมืองหาง (ปัจจุบันอยู่ในรัฐฉานประเทศเมียนมา) บางตำนานก็ว่าสิ้นประชนม์ที่เมืองแหง ภายในมีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รูปหล่อนั่งหลั่งน้ำสิโนทกประกาศอิสระภาพ หอภาพถ่าย ที่ได้รวบรวมภาพถ่ายประวัติศาสตร์ที่หาชมได้ยากเก็บไว้จัดแสดงไว้ให้ได้เรียนรู้

ติดต่อ /วัดฟ้าเวียงอินทร์ บ้านหลักแต่ง หมู่ 1 ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พระปรีชา ปัญญาสาโร(รักษาการเจ้าอาวาสวัดฟ้าเวียงอินทร์) โทร. 087-17641701, 053-476140
การเดินทาง / จากเชียงใหม่ไปตามถนน 107 ไปถึงทางแยกที่เชียงดาว กม. 77 กว่า แยกซ้ายเข้าไปอีก 14 กม. ถึงทางแยกไปเวียงแหงอีก 76 กม. ถึงชายแดนที่ วัดฟ้าเวียงอินทร์
พิกัด GPS : 19.78738 , 98.601471

ร่วมแสดงความคิดเห็น