จุลกฐินแห่งเดียวในเชียงใหม่ที่วัดท่าจำปี (หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท)

ประเพณีทำบุญทอดกฐิน ประจำปี 2563 เสร็จสิ้นลงแล้วในวันที่ 31 ต.ค.2563 ตามพุทธบัญญัติให้เวลาถวายอานิสงส์พรรษา 1 เดือน สำหรับกฐินมีหลายประเภท ถ้าเป็นกฐินพระราชทาน เรียกว่ากฐินหลวง, กฐินบุคคล/กฐินสามัคคี เรียกกฐินราษฎร์ แต่ที่ทำได้ยาก และต้องใช้เวลากระชับสั้นที่สุดเรียก “จุลกฐิน” มีเวลาเตรียมการตั้งแต่เก็บฝ้าย ปั่นฝ้าย กรอด้าย ทอผ้า เย็บจีวร และย้อมเป็นผ้าไตรจีวรสำเร็จรูป ในห้วง 24 ชม.

ปี 2563 ทั่วโลกและคนไทยประสบภัยพิบัติจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจฝืดเคืองดังที่เห็น แต่การทำบุญทอดกฐินก็ไม่ได้ละทิ้งกัน ส่วนการทอดจุลกฐินนั้น ในจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้จัดขึ้นเพียงวัดเดียวเท่านั้น คือ วัดท่าจำปี (หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท หรือท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุต)ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2563 โดยนายไพศักดิ์-นางอรวรรณ หงส์ศรีสุวรรณ พร้อมครอบครัวและคณะ, นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี พร้อมครอบครัว บริษัท ชันโจเดนจิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, นายประพันธ์ ประชุมพันธ์ และคณะ, นางสุพิชชญา สาคร คุณยายแม้น แย้มรุ่ง และคณะ, นายพิพัฒน์ เกียรติไพบูลย์ นางพัทธีรา สมพรนิมิตกุล และคณะ พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่ครูบาดวงดี และ พระครูวรธรรมธีรพงศ์ เจ้าอาวาสวัดท่าจำปีปัจจุบัน

กระบวนการทอดจุลกฐิน เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 30 ตุลาคม 2563 คณะเจ้าภาพรวมได้ร่วมพิธีบวงสรวงตามประเพณีล้านนา จากนั้นมีนางฟ้าน้อยๆฟ้อนต้อนรับ เก็บดอกฝ้าย อี๊ดฝ้าย กรอด้าย ทอผ้าด้วยหูก(กี่) 7 ชุด แล้วนำผ้าไปตัดเย็บเป็นจีวร จัดเป็นผ้าไตรได้ 2 ชุด นำไปย้อมด้วยเปลือกไม้สีเหลือง(ขนุน) มีการเจริญพระพุทธมนต์ ตั้งธรรมหลวง เทศน์มหาชาติ กวนข้าวทิพย์ สายวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ประกอบพิธีถวายจุลกฐินบนมหาศาลาหลวงปู่ดวงดี สุภัทโท ท่ามกลางศรัทธาสาธุชนเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก นับเป็นการทอดจุลกฐินแห่งเดียวของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้.

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น