แพทย์เตือนปลายฝนต้นหนาว RSV ระบาด ผู้ปกครองควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิด

กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังบุตรหลานของท่าน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้เป็นฤดูกาลระบาดของเชื้อไวรัส RSV ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการทางระบบทางเดินหายใจของลูกหลานอย่างใกล้ชิด และหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เชื้อไวรัส RSV มักระบาดมากในช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวหรือประมาณเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม เด็กที่ป่วยจะมีอาการเบื้องต้นคล้ายเป็นไข้หวัดธรรมดา มีน้ำมูก ไข้ ไอ จาม พ่อแม่จึงต้องคอยสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิด หากมีอาการคล้ายปอดอักเสบร่วมด้วย ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาต่อไป

นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า เชื้อไวรัส RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ เชื้อไวรัสนี้แพร่กระจายผ่านทางการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย และเสมหะจากผู้ติดเชื้อไวรัส โดยเชื้อ RSV สามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยผ่านทางเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือผ่านทางการสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการจับมือ ซึ่งการติดเชื้อดังกล่าวมักพบในเด็กเล็ก ซึ่งเป็นวัยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงและเด็กที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทารกคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น หากมีอาการไอ มีเสมหะจำนวนมาก หายใจเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีด ซึ่งเป็นลักษณะอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าหลอดลมตีบ หรือหลอดลมฝอยอักเสบ ในบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาการถึงขั้นตัวเขียว ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัส RSVการรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการเท่านั้น ผู้ปกครองสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ได้โดยดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หมั่นล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันการติดต่อทางการสัมผัส ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในที่แออัดหรือในบริเวณสาธารณะ ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ ให้เด็กดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อลดภาวะขาดน้ำและช่วยขับเสมหะ แต่ถ้าหากเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่หย่านม สามารถให้เด็กดูดนมได้มากที่สุดตามความต้องการ แยกอุปกรณ์และภาชนะต่างๆของเด็กไม่ควรใช้ร่วมกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น